ชาวอาเซียนหวั่นประเทศตนติดกับดักหนี้จีน

วิจัยเผยชาวอาเซียน ห่วงรบ.ประเทศตนเองเดินตามนโยบาย "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" จนอาจติดหนี้จีนท่วมหัว

สถาบันวิจัย ISEAS–Yusof Ishak Institute ของสิงคโปร์ ได้เปิดเผยผลสำรวจพลเมืองจากประเทศต่างๆในอาเซียนจำนวน  1,008 คน ซึ่งมีทั้งนักวิชาการนักศึกษา นักธุรกิจ สื่อมวลชน และข้าราชการ โดยร้อยละ 70% ระบุว่าต่างเป็นกังวลการเจรจาข้อตกลงด้านการลงทุน และการค้าต่างๆกับประเทศจีน โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ของรัฐบาลปักกิ่ง

รายงานระบุว่ากลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 70 นั้นกังวลว่ารัฐบาลในประเทศของตนอาจตก"เสียเปรียบ"ในด้านการลงทุนและการเจรจากับจีน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาหนี้สินผูกมัดที่ไม่รู้จบกับทางการจีน และรัฐบาลควรใช้ความรอบคอบในการเจรจาหรือลงนามใดๆกับจีน ซึ่งความคิดเห็นเหล่านี้เข้มข้นอย่างมากโดยเฉพาะประเทศฟิลิปปินส์ มาเลเซีย รวมถึงประเทศไทยด้วย

ขณะที่อีก 73% มองว่าจีนเป็นชาติที่ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนผู้ตอบแแบบสอบถามถึง 6 ใน 10 คนมองว่าอิทธิพลของสหรัฐที่มีต่อโลกนั้นลดลงอย่างมากจากปีที่แล้ว อีก 2 ใน 3 เชื่อว่าการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นลดลง

และประมาณหนึ่งในสามกล่าวว่าพวกเขาเชื่อมั่นเพียงเล็กน้อย หรือแทบไม่เชื่อมั่นต่อสหรัฐ ในฐานะพันธมิตรที่รักษาความปลอดภัยในภูมิภาคนี้เลย

นอกจากนี้ผู้ตอบแบบสำรวจยังเรียกร้องให้อาเซียนมีบทบาทในการเจรจาจัดการปัญหาผู้อพยพโรฮีนจา มากกว่าจะใช้วิธีการกดดันทางการทูตต่อรัฐบาลเมียนมา