posttoday

นรกรายวันที่เวเนฯ ลักพาตัวเพื่อเอาชีวิตรอด

20 พฤศจิกายน 2561

สถานการณ์ในเวเนซุเอลาเข้าขั้นวิกฤตหลังต้องเผชิญกับเศรษฐกิจล่มสลาย ล่าสุดผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องหันไปก่ออาชญากรรมเพื่อหาเงินประทังชีวิต

สถานการณ์ในเวเนซุเอลาเข้าขั้นวิกฤตหลังต้องเผชิญกับเศรษฐกิจล่มสลาย ล่าสุดผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องหันไปก่ออาชญากรรมเพื่อหาเงินประทังชีวิต

สถานการณ์ในเวเนซุเอลาขณะนี้เข้าขั้นวิกฤตเกินกว่าจะจินตนาการได้แล้ว ไม่เพียงแต่ประชาชนต้องรับมือกับปัญหาข้าวยากหมากแพง ขาดแคลนทั้งสิ่งอุปโภคบริโภคที่เป็นปัจจัยพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังต้องตกอยู่ในสภาวะหวาดกลัวกับอาชญากรรมที่เกิดขึ้นทั่วทุกหัวระแหง มีการปล้นฆ่าชิงทรัพย์เสียชีวิตอย่างน้อย 3 รายในทุกชั่วโมง สาเหตุมาจากเศรษฐกิจที่ล่มสลายจากภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง หรือ “อภิมหาเงินเฟ้อ” (Hyperinflation) ซึ่งเป็นผลให้ธนบัตรมีราคาถูกกว่ากระดาษจนแทบไร้ค่า

มีความเป็นไปได้ว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะพุ่งแตะระดับ 1,000,000% ในปีนี้ เท่ากับค่าใช้จ่ายต่างๆ จะเพิ่มขึ้นมา 10,000 เท่า เปรียบกับข้าวจานละ 40 บาท กลายมาเป็น 400,000 บาท ซึ่งนั่นอาจเป็นการบีบให้เศรษฐกิจเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก เพราะแค่ทุกวันนี้ชาวเวเนซุเอลาก็ต้องใช้ชีวิตอย่างห่วงหน้าพะวงหลัง จากอาชญากรรมที่เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ล่ะวันอยู่แล้ว

เมื่อผู้คนอดอยากและไม่สามารถหาเลี้ยงปากท้องได้ด้วยวิธีสุจริต ก็เปลี่ยนอาชีพกลายมาเป็นโจร ออกฆ่าปล้นชิงทรัพย์ โดยในปีที่ผ่านมาเกิดคดีฆาตกรรมทั่วประเทศกว่า 26,616 คดี คิดเป็นอัตรา 15 เท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลก ซึ่งเป็นสถิติที่สูงจนน่าตกใจ และยิ่งน่าหวาดหวั่นเมื่ออาชีพที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้คือ รับจ้างลักพาตัว

นรกรายวันที่เวเนฯ ลักพาตัวเพื่อเอาชีวิตรอด

มานูเอล อดีตคนงานก่อสร้าง ผู้เคยหันไปรับจ้างลักพาตัวเพื่อหาเงินให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เขาต้องแบกรับ ให้สัมภาษณ์กับคณะกรรมการความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์ (OVV) ว่า การรับจ้างลักพาตัวในเวเนซุเอลากำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะรายได้ดี รับค่าจ้างเป็นเงินเหรียญสหรัฐ ภายใน 5 วันสามารถหาเงินได้จำนวนกว่า 30,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 980,000 บาท) ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากพอจะใช้ชีวิตในเวนาซุเอลาได้ขณะนี้ ขณะคนที่รักตัวกลัวตาย เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางสถานการณ์อาชญากรล้นเมือง ก็ต้องหันมาจ้างบอดี้การ์ด เพื่ออารักขาความปลอดภัย แต่นั่นก็เป็นไปได้เฉพาะกับคนรวยเท่านั้น

ชีวิตชาวเวเนซุเอลาไม่ปลอดภัยขึ้นทุกวัน ฮาไมเลต มาร์คาโน ครูสาววัย 46 ปี ยังจดจำการสูญเสียน้องชายของเธอได้เป็นอย่างดี เธอเล่าว่า เขาถูกคนร้ายแทงเสียชีวิตระหว่างทางกลับบ้าน เพื่อชิงสมาร์ทโฟนในมือ ทุกวันนี้มาร์คาโนจึงต้องอาศัยอยู่ในบ้านที่หน้าต่างและประตูถูกตีปิดอย่างรัดกุม

“คนแก่และเด็กถูกฆ่าตาย ทุกคนต้องเผชิญกับมัน คนร้ายตระเวนปล้นไปตามถนน ชายหาด ซูเปอร์มาเก็ต หรือแม้แต่ในโรงพยาบาล เป็นการใช้ชีวิตที่แย่เกินกว่าจะจินตนาการ” ครูสาว กล่าว

ทั้งนี้ เวนาซุเอลาเคยเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในภูมิภาคละตินอเมริกา แต่หลังจากเผชิญภาวะเงินเฟ้ออย่างหนักหน่วง เศรษฐกิจก็พังทลาย ขาดแคลนอาหาร โรงพยาบาลเต็มไปคนเจ็บป่วย เกิดการปล้นฆ่ารายวัน ส่งผลให้ประชาชนต้องอพยพหนีไปตายเอาดาบหน้ายังประเทศเพื่อนบ้าน ชี้ให้เห็นปัญหาความรุนแรงในประเทศ ที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น จนเวนาซุเอลาติดอันดับได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการปล้นและการลักพาตัวของโลก และถูกขนานนามว่าเป็นประเทศที่อันตรายที่สุดในโลกอีกด้วย

ภาพ เอเอฟพี

ที่มา www.m2fnews.com