posttoday

สหรัฐ-จีนระเบิดศึกภาษี บริษัทต่างชาติเริ่มย้ายหนี

24 กันยายน 2561

สหรัฐ-จีนเริ่มใช้มาตรการกำแพงภาษีรอบใหม่ ด้านผู้ผลิตแห่ย้ายฐานออกจากจีน

สหรัฐ-จีนเริ่มใช้มาตรการกำแพงภาษีรอบใหม่ ด้านผู้ผลิตแห่ย้ายฐานออกจากจีน

สหรัฐเริ่มเก็บภาษี 10% กับสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.47 ล้านล้านบาท) ครอบคลุมสินค้า 6,000 รายการ มีผลตั้งแต่เวลา 00.00 น. ของวันที่ 24 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ หรือเที่ยงวันของกรุงปักกิ่ง ขณะที่จีนเริ่มเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ 5,207 รายการ ระหว่าง 5-10% วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.95 ล้านล้านบาท) ในเวลาเดียวกัน

ทั้งนี้ รอยเตอร์สรายงานว่า มาตรการตั้งกำแพงภาษีของวอชิงตัน ทำให้ผู้ผลิตจำนวนมากตั้งแต่เมโมรีชิป ไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องจักร กำลังย้ายฐานการผลิตออกจากจีนไปอยู่ที่อื่นในเอเชีย โดยโฆษกของโตชิบา แมชชีน เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนย้ายการผลิตเครื่องฉีดพลาสติกในจีน ซึ่งผลิตเพื่อส่งไปสหรัฐมาอยู่ที่ไทย หรือญี่ปุ่น ในเดือน ต.ค.นี้

รายงานระบุด้วยว่า เอสเค ไฮนิกซ์ ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์กำลังย้ายการผลิตชิปดีแรมกลับเกาหลีใต้ โดยชิปดีแรมที่ผลิตในจีนส่งออกไปสหรัฐเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ขณะที่จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับดีแรม บริษัทจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

ด้าน มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กำลังอยู่ระหว่างการย้ายฐานผลิตเครื่องจักรสำหรับแปรรูปเหล็กที่ส่งออกไปสหรัฐจากโรงงานในเมืองต้าเหลียน กลับไปอยู่ในโรงงานญี่ปุ่นที่เมืองนาโกยาและคอมพาล ผู้ผลิตโน้ตบุ๊ก เปิดเผยว่า บริษัทกำลังศึกษาการย้ายฐานผลิตจากจีนไปเวียดนาม เม็กซิโก และบราซิล

นอกจากนี้ รัฐบาลในเอเชียยังหวังว่าจะได้รับผลประโยชน์จากข้อพิพาทระหว่างสหรัฐและจีน โดย วิลเลียม หลิว เจ้าหน้าที่กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน เปิดเผยว่า สงครามการค้าจะเพิ่มการจ้างงานในไต้หวัน หากบริษัทย้ายกลับมาจากจีน

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เปิดเผยว่า ไทยหวังว่าจะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและการลงทุนที่ไหลออกจากจีนช่วงสงครามการค้า

ขณะเดียวกัน กรมศุลกากรจีน เปิดเผยว่า การนำเข้าสินค้าธัญพืชของจีนในเดือน ส.ค. ลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าที่พึ่งพาการนำเข้าจากสหรัฐเป็นหลัก เช่น ข้าวฟ่าง ซึ่งลดลง 78.5% เมื่อเทียบกับปี 2017 และข้าวสาลี ซึ่งลดลง 51.6% เป็นผลมาจากภาษีเมื่อวันที่ 6 ก.ค.

ภาพ เอเอฟพี