เปิดเนื้อหา"สัญญาสันติภาพสองโสม" ฉบับเปียงยาง
ส่องเนื้อหาสัญญาศักราชใหม่ไร้สงคราม ที่ผู้นำสองเกาหลีลงนามร่วมกัน
ส่องเนื้อหาสัญญาศักราชใหม่ไร้สงคราม ที่ผู้นำสองเกาหลีลงนามร่วมกัน
วันนี้ (19 ก.ย.) นับเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ที่ประธานาธิบดีมุนแจอิน ของเกาหลีใต้ และนายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุด เกาหลีเหนือ ได้มีข้อตกลงร่วมกันอย่างชัดเจนถึงแนวทางของก้าวแรกในการเริ่มต้นสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีเพื่อเริ่มศักราชใหม่ที่ไร้สงคราม
ซึ่งการลงนามดังกล่าวนี้ไม่เพียงแค่จะมีลายเซ็นต์ของสองผู้นำเท่านั้น แต่ยังมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ และผู้บัญชาการกองทัพเกาหลีเหนือ ลงนามในข้อตกลงฉบับนี้ด้วยเช่นกัน โดยข้อตกลงดังกล่าวนี้ระบุเงื่อนไขสำคัญหลายประการดังนี้...
เกาหลีเหนือยินดีจะปิดฐานทดสอบขีปนาวุธระยะไกลที่ทงชางรี (Tongchang-ri missile test site) เป็นการถาวร ร่วมถึงฐานปล่อยขีปนาวุธ โดยอนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติร่วมสังเกตการณ์ด้วย
สถานที่อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์เช่น ศูนย์วิจัยยองบยอน (Yongbyon complex) จะต้องปิดตัวลงด้วยเช่นกัน
จัดตั้ง "เขตงดบิน" บริเวณชายแดนเพื่อเลี่ยงการชนโดยอุบัติเหตุ
เริ่มการก่อสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ภายในปีนี้
ส่งเสริมการความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในด้านการท่องเที่ยว สาธารณะสุข รวมถึงการจัดงานรวมญาติให้บ่อยขึ้น
ถอนจุดสังเกตการณ์บริเวณชายแดนทั้ง 11 แห่งภายให้หมดในสิ้นปีนี้
ระงับการซ้อมรบบริเวณชายแดนที่มุ่งเป้ายั่วยุมายังทั้งสองเกาหลี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป
จัดตั้ง “เขตกันชน” บนทะเลเหลือง เพื่อระงับการปะทะระหว่างทั้งสองฝ่าย
นอกจากนี้ผู้นำทั้งสองยังเผยว่าอาจจะยื่นขอเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 2032 ด้วย
นายคิมจองอึน ยังได้เผยอีกว่า เขายินดีจะเดินทางเยือนกรุงโซลของเกาหลีใต้เพื่อสานสัมพันธ์และหารือกันให้มากขึ้น หากไม่มี"สถานการณ์พิเศษ" ใดๆขึ้น ซึ่งจะนับว่านายคิมจองอึนจะเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนแรกที่เดินทางเยือนเกาหลีใต้ ทั้งยังระบุว่าการประชุมครั้งนี้นับเป็นพัฒนาการแบบ"ก้าวกระโดด"สู่การนำคาบสมุทรเกาหลีไปสู่สันติภาพ
อย่างไรก็ดีนายคิมได้กล่าวยอมรับว่า "แม้เส้นทางข้างหน้าของเกาหลีเหนือจะเต็มไปด้วยบททดสอบและความท้าทายมากมายที่รออยู่ แต่เขาเชื่อมั่นจะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้นได้"
ภาพ : AP, Reuters