posttoday

ค้าโลกระอุ11ล้านล.สหรัฐตั้งภาษีจีนรอบใหม่ ปักกิ่งโต้กลับทันที

19 กันยายน 2561

ระเบิดศึกการค้ารุนแรงสุด รอบกว่า 80 ปี สหรัฐตั้งภาษีจีน 6.5 ล้านล้านบาท ปักกิ่งสวนกลับทันควัน 'แจ็ค หม่า'เตือนต่อสู้ยืดเยื้อ20ปี

ระเบิดศึกการค้ารุนแรงสุด รอบกว่า 80 ปี สหรัฐตั้งภาษีจีน 6.5 ล้านล้านบาท ปักกิ่งสวนกลับทันควัน  'แจ็ค หม่า'เตือนต่อสู้ยืดเยื้อ20ปี

สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐกำลังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยขณะนี้ทั้งสองฝ่ายตั้งกำแพงภาษีตอบโต้กับสินค้ามูลค่ารวมกันถึง 3.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11.7 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นศึกการค้าเต็มรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ช่วงปี 1930 และขยายวงลุกลามจากกำแพงภาษี 5 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.6 ล้านล้านบาท) ที่บังคับใช้ไปก่อนหน้านี้

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ ประกาศว่าจะเริ่มเก็บภาษี 10% กับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 6.5 ล้านล้านบาท) ครอบคลุมสินค้า 6,000 รายการ เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราภาษีเป็น 25% ในวันที่ 1 ม.ค. 2019

นายทรัมป์ยังระบุว่า สหรัฐจะเก็บภาษีกับสินค้าจีนอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 8.7 ล้านล้านบาท) หากจีนยืนกรานใช้มาตรการตอบโต้กับภาคอุตสาหกรรมเกษตรหรือภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ

ก่อนหน้านี้ สหรัฐเริ่มเก็บภาษีกับสินค้าจีนไปแล้ว 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีผลเต็มรูปแบบเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และจากมาตรการตั้งภาษีรอบใหม่ ส่งผลให้สหรัฐเก็บภาษีสินค้าจีนรวมทั้งหมด 2.5 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 8.1 ล้านล้านบาท)

ด้านรัฐบาลจีนประกาศตอบโต้ด้วยการเตรียมขึ้นภาษีระหว่าง 5-10% วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.95 ล้านล้านบาท) กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 5,207 รายการ โดยจะมีผลวันเดียวกันในวันที่ 24 ก.ย.นี้

ขณะที่นายแจ็ค หม่า ประธานอาลีบาบา ยักษ์อี-คอมเมิร์ซจีน แสดงความวิตกว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐเสี่ยงยืดเยื้อไปนานถึง 20 ปี และส่งผลกระทบรุนแรงกว่าที่คนส่วนใหญ่คิด และขณะนี้ยังไม่มีทางแก้ไข

"ในระยะสั้น ภาคธุรกิจในจีน สหรัฐ และยุโรปจะเผชิญปัญหาใหญ่ ซึ่งจะยืดเยื้อไปอีกนาน และขณะนี้ยังไม่มีทางแก้ไขในระยะสั้น" นายหม่า กล่าว

อย่างไรก็ดี ข่าวการตั้งภาษีสินค้าจีนรอบใหม่ไม่ส่งผลต่อตลาดทุนมากนัก โดยตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดการซื้อขายแดนบวกวานนี้ นำโดยดัชนีนิกเกอิ 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับขึ้น 1.41% เช่นเดียวกับดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 1.82% ส่วนตลาดหุ้นไทยวานนี้ ดัชนีปิดที่ 1,744.42 จุด เพิ่มขึ้น 26.03 จุด หรือ 1.51% มูลค่าการซื้อขาย 79,655.82 ล้านบาท

ด้านซีเอ็นบีซี รายงานว่า นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดเตรียมพร้อมรับข่าวดังกล่าวแล้ว และเห็นว่าจีนและสหรัฐยังมีโอกาสเจรจากันอยู่ ขณะที่ไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานอ้างแหล่งข่าวเกี่ยวข้องว่า ยังไม่น่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นชัดเจนจนกว่าจะผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งกลางเทอมเดือน พ.ย.ของสหรัฐไปก่อน

ขณะเดียวกัน นายทรัมป์และนายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน คาดว่าจะพบปะกันเพื่อหารือประเด็นการค้า ระหว่างการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ (จี20) ในเดือน พ.ย.ในอาร์เจนตินา

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า การที่ตลาดเงินตลาดทุนของประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งตลาดหุ้นจีน ปรับตัวบวกขึ้นแรงสวนทางกับสถานการณ์ที่สหรัฐประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากจีน เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลง อาจเป็นเพราะนักลงทุนรับรู้ข่าวไปแล้ว และสหรัฐขึ้นภาษีน้อยกว่าที่คาด หากปลายปีนี้สหรัฐขึ้นภาษีเป็น 25% ตลาดจะตอบรับทางลบอย่างแรง

"ตอนนี้ต้องติดตามว่าจีนจะตอบโต้สหรัฐอย่างไร มองว่าสงครามการค้าจะลากยาว ไม่ได้จบแค่การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ เพราะประธานาธิบดีมองไปถึงการเลือกตั้งในสมัยหน้าด้วย ซึ่งจะประเมินผลกระทบต่อไทยได้ในปีหน้า" นายอมรเทพ กล่าว