posttoday

ทูตไต้หวันประจำญี่ปุ่นฆ่าตัวตาย เหตุถูกวิจารณ์ทำงานล้าช้า

15 กันยายน 2561

ผู้แทนรบ.ไต้หวันประจำนครโอซาก้าของญี่ปุ่น ฆ่าตัวตายหลังถูกโลกออนไลน์วิจารณ์ช่วยเหลือชาวไต้หวันที่ประสบภัยไต้ฝุ่นเชบีล้าช้า

ผู้แทนรบ.ไต้หวันประจำนครโอซาก้าของญี่ปุ่น ฆ่าตัวตายหลังถูกโลกออนไลน์วิจารณ์ช่วยเหลือชาวไต้หวันที่ประสบภัยไต้ฝุ่นเชบีล้าช้า

ไต้หวันนิวส์รายงานว่านาย ซูชุ่ยเฉิง วัย 61 ปี ผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ประจำนครโอซาก้าของญี่ปุ่น ซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากับกงสุลไต้หวันประจำนครโอซาก้า ถูกพบเป็นศพภายในบ้านพักของสำนักผู้แทนรัฐบาลไต้หวัน ในช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 14 ก.ย.ทีผ่านมา

รายงานจากกระทรวงต่างประเทศไต้หวันระบุว่า นายซู มีตำแหน่งเป็นผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำสำนักเศรษฐและวัฒนธรรมไทเป ประจำนครโอซาก้า ซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากับสถานกงสุล ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจากเหตุพายุไต้ฝุ่นเชบี พัดถล่มในพื้นที่แถบคันไซของญี่ปุนนั้น สำนักผู้แทนฯไทเป ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันที่ประสบภัยพายุไต้ฝุ่นดังกลื่่าว

แต่ทว่าจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ส่งผลให้ทางสำนักผู้แทนฯไต้หวัน ถูกชาวไต้หวันวิจารณ์ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าวอย่างหนักผ่านทางโซเชียลมีเดีย จากการที่ไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกที่ดีเท่าที่ควร และเต็มไปด้วยกระบวนการที่ล้าช้า รวมถึงจากการที่มีชาวไตหวันจำนวนกว่า 500 คนติดอยู่ในสนามบินคันไซเป็นเวลานานจากการที่พายุพัดถล่ม

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันจำนวนนี้ซึ่งติดอยู่ที่สนามบิน ถูกบังคับให้แสดงตนเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติจีนจึงจะได้รับการช่วยเหลือผ่านทางสถานทูตจีน จากรายงานระบุว่าหากนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันซึ่งถือพาสปอร์ตไต้หวัน ยอมลงทะเบียนว่าเป็นสัญชาติจีน ก็จะได้สิทธิเดินทางออกจากสนามบินโดยทางสถานทูตจีนจะอนุญาตให้ขึ้นรถบัสเพื่ออพยพออกจากสนามบินได้

ด้านสื่อท้องถิ่นของฮ่องกงรายงานว่า มีชาวไต้หวันจำนวนหนึ่งโพสต์ข้อความประชดประชันในเชิงตำหนิการทำงานของสำนักผู้แทนฯไทเปว่า พวกเขาคงต้องเปลี่ยนไปใช้สัญชาติ"จีน" แทนสัญชาติ"ไต้หวัน" จึงจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลจีน ซึ่งให้ความช่วยเหลือดีกว่ารัฐบาลไต้หวัน

ทั้งนี้ สำหรับสถานะทางการทูตของไต้หวัน นั้นถูกอิทธิพลของรัฐบาลจีนครอบงำ เนื่องจากนโยบาลจีนเดียว ที่รัฐบาลจีนอ้างสิทธิเหนืออธิปไตยของไต้หวัน แม้ไต้หวันจะยืนยันได้อธิปไตยของตนเองก็ตาม

ภาพ : Taiwan Central News Agency