อียูเล็งเลิกใช้เวลาฤดูร้อนและฤดูหนาว

สหภาพยุโรปพิจารณาเลิกใช้การปรับเวลาออมแสงช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว หลังชาวยุโรปต้องการเวลาช่วงกลางวันที่ยาวนานขึ้น

นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ของสหภาพยุโรป เผยว่า อียูกำจะยกเลิกการใช้เวลาฤดูร้อนและฤดูหนาว หลังผลสำรวจพบว่าชาวอียูมากถึงร้อยละ 80 ต้องการให้ยกเลิกการปรับเวลาในฤดูร้อนและฤดูหนาวสลับกัน หรือเวลาออมแสง  (Daylight Saving Time) และสนับสนุนให้ใช้เวลาในฤดูร้อนอย่างเดียวตลอดทั้งปี

โดยเขาระบุว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การอภิปรายของคณะกรรมาธิการอียูในวันนี้ อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาของประเทศสมาชิกและรัฐสภายุโรปจึงจะมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย

ทั้งนี้ ปัจจุบันทุกชาติที่เป็นสมาชิกอียูใน 28 ประเทศ ต้องปรับเวลาเร็วขึ้น 1 ชั่วโมงในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการเข้าสู่ฤดูร้อน และปรับลดเวลาลง 1 ชั่วโมงในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว

ซึ่งที่ผ่านมาประเทศฟินแลนด์ซึ่งตั้งอยู่เหนือสุดของอียูเรียกร้องให้ยกเลิกเวลาออมแสงดังกล่าว โดยระบุว่าการสลับเวลาในหน้าร้อนและหน้าหนาวนั้น มีผลต่อสุขภาพในระยะยาวโดยเฉพาะเด็กเล็กและคนชรา เนื่องจากผลวิจัยพบว่า การสลับเวลาจะมีผลต่อตารางการนอนและประสิทธิภาพในการทำงาน

ขณะที่กลุ่มสนับสนุนให้สลับเวลาดังเดิมระบุว่า การปรับเวลาให้เร็วขึ้นหนึ่งชั่วโมงในฤดูร้อนและคืนกลับไปหนึ่งชั่วโมงในฤดูหนาวจะช่วยลดอุบัติเหตุจราจรแถมเป็นการประหยัดพลังงาน