เจ้าฟ้าชายชาลส์ อาจทรงเลือกพระนาม"จอร์จที่7" เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีกว่า
สื่อเผยเจ้าฟ้าชายชาลส์ อาจทรงเลือกพระนาม "พระเจ้าจอร์จที่7" เป็นพระนามขึ้นครองราชย์แทน"พระเจ้าชาลส์ที่3"
สื่อเผยเจ้าฟ้าชายชาลส์ อาจทรงเลือกพระนาม "พระเจ้าจอร์จที่7" เป็นพระนามขึ้นครองราชย์แทน"พระเจ้าชาลส์ที่3"
จากก่อนหน้านี้มีแถลงการณ์จากพระตำหนักคลาเรนซ์เฮาส์ ของเจ้าฟ้าชายชาลส์โดยปฎิเสธถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าทรงหารือกับพระสหายคนสนิทถึงอนาคตการขึ้นครองราชย์ของพระองค์ว่า จะทรงเลือกใช้พระนามว่า "พระเจ้าจอร์จที่ 7" แทนที่จะทรงใช้พระนามว่าพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ด้วยเหตุผลด้านความเหมาะสมนั้น ทางพระตำหนักคลาเรนซ์เฮาส์ได้ออกมาปฎิเสธถึงกระแสข่าวดังกล่าวโดยในแถลงการณ์ว่า "ขณะนี้ยังเจ้าชายยังไม่ทรงตัดสินพระทัยในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่สมควร"
กระแสข่าวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สื่ออังกฤษหลายแห่งมีการนำเสนอรายงานข่าวเกี่ยวกับแผนปฎิบัติการลอนดอนบริดจ์ (Operation London Bridge) ซึ่งเป็นโค้ดเรียกระเบียบวิธีการปฎิบัติในกรณีที่หากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองสวรรคต
เหตุที่เจ้าฟ้าชายชาลส์อาจทรงเลือกพระนามว่า พระเจ้าจอร์จ เนื่องจากเหตุผลด้านประวัติศาสตร์บางประการ สำหรับกษัตริย์ที่ทรงเลือกพระนามว่าชาลส์พระองค์แรกคือ พระเจ้าชาลส์ที่1 (ครองรายช์ 1625-1649) ซึ่งเป็นผู้ที่ทรงถูกสำเร็จโทษด้วยการตัดพระเศียร จากการที่ทรงอยู่เบื้องหลังความวุ่นวายในช่วงสงครามกลางเมืองอังกฤษ
หลังจากมีกการสำเร็จโทษพระเจ้าชาลส์แล้ว อังกฤษได้กลายเป็นสาธาณรัฐอยู่ช่วงหนึ่งโดยมีโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ ทำหน้าที่เจ้าผู้พิทักษ์ (Lord Protector) หลังจากสิ้นสุดยุคครอมเวลล์ สภาอังกฤษได้เลือกผู้ที่สืบทอดราชบัลลังค์องค์ต่อมาคือพระโอรสสายตรงของพระเจ้าชาลส์ที่1 ซึ่งก็คือพระเจ้าชายลส์ที่ 2 ( ครองราชย์ 1660-1685) ซึ่งพระองค์เองก็มีชื่อเสียงในเรื่องความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสตรีหลายคน แม้จะทรงมีพระมเหสีอยู่แล้ว แถมมีพระราชบุตรนอกสมรสหลายคนเช่นกัน โดยตามที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์นั้นคาดว่าพระองค์ทรงซ่อนพระโอรสและพระธิดานอกสมรสมากถึง 12 พระองค์
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ด้านนายนิกเกอร์ อาร์บิเทอร์ นักวิเคราะห์ราชวงศ์อังกฤษได้เปิดเผยผ่านสื่ออังกฤษว่า สำหรับเจ้าฟ้าชายชาลส์นั้นอาจทรงเลือกพระนามว่าพระเจ้าจอร์จที่ 7 แทนที่จะทรงใช้พระนามว่า พระเจ้าชาลส์ที่ 3 แต่ทั้งนี้ อาจจะทรงเลือกพระนามอื่นๆเช่น ฟิลลิป หรือ อาเธอร์ ซึ่งเป็นพระนามของพระองค์เช่นกัน
แต่อย่างไรก็ดี นายนิกเกอร์กล่าวว่า เขาหวังว่าพระองค์ยังคงใช้พระนามว่าชาลส์เมื่อทรงขึ้นครองราชย์ แต่สุดท้ายการตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับพระองค์เอง สำหรับธรรมเนียมการเปลี่ยนพระนามเมื่อขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์อังกฤษนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่
โดยก่อนหน้านี้ พระเจ้าจอร์จที่6 พระบิดาของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ก็ทรงเลือกใช้พระนามว่า "จอร์จ" เป็นพระนามเมื่อขึ้นครองราชย์ แทนที่พระนามเดิมว่า อัลเบิร์ต หรือก่อนหน้านั้น พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 พระปิตุลาของสมเด็จพระราชินี ทรงเลือกพระนามว่าเอ็ดเวิร์ด แทนพระนามเดิมว่าเดวิด ส่วนคามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ พระชายานั้น จะกลายเป็นพระราชินีแห่งอังกฤษในฐานะพระอัครมเหสี ซึ่งต่างกับสถานะของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง
อย่างไรก็ดี ตลอดการสืบราชบัลลังค์ของอังกฤษนั้นส่วนใหญ่กษัตริย์พระองค์ใหม่จะสืบบัลลังค์ต่อจากกษัตริย์องค์ก่อนที่สวรรคต ซึ่งการขึ้นครองราชย์ของเจ้าฟ้าชายชาลส์นั้น จะเท่ากับการสูญเสียพระมารดาอันเป็นที่รักของพระองค์เองเช่นกัน