posttoday

สหรัฐ-จีนปูทางแก้พิพาทการค้า

19 สิงหาคม 2561

สหรัฐ-จีนเร่งเจรจายุติพิพาทการค้า หวังปูทางจัดซัมมิตสี-ทรัมป์ เดือน พ.ย.นี้ ด้านยูเอสทีอาร์ขยายเวลารับฟังความเห็นเอกชน

สหรัฐ-จีนเร่งเจรจายุติพิพาทการค้า หวังปูทางจัดซัมมิตสี-ทรัมป์ เดือน พ.ย.นี้ ด้านยูเอสทีอาร์ขยายเวลารับฟังความเห็นเอกชน

วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานอ้างแหล่งข่าวเกี่ยวข้องว่า คณะผู้แทนเจรจาของจีนและสหรัฐกำลังเร่งหาทางคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองชาติ เพื่อปูทางสู่การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ในเดือน พ.ย.นี้

ทั้งนี้ หวังโชเหวิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน จะเดินทางเยือนสหรัฐเพื่อถกประเด็นการค้ากับ เดวิด มอลพาส รัฐมนตรีช่วยฝ่ายการค้าระหว่างประเทศ ประจำกระทรวงการคลัง ในวันที่ 22-23 ส.ค.นี้ โดยแหล่งข่าวเกี่ยวข้องเปิดเผยว่าอาจมีการเจรจาอีกหลายรอบตามมาหลังจากนั้น

ด้าน เฉิงหลี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนจากสถาบันบรูกกิงส์ในสหรัฐ เปิดเผยว่า สีจิ้นผิงกำลังเผชิญแรงกดดันภายในประเทศเรื่องความสัมพันธ์ไม่ราบรื่นระหว่างจีนและสหรัฐ สอดคล้องกับแหล่งข่าวจากรัฐบาลจีนที่ระบุว่า สีจิ้นผิงสั่งการให้คณะผู้แทนพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพราะหากความขัดแย้งยืดเยื้อไปเป็นเวลานาน จะบั่นทอนเป้าหมายการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีนและการก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจโลก

อย่างไรก็ดี วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ท่าทีของฝั่งสหรัฐที่ยังขัดแย้งกันอาจเป็นอุปสรรคต่อการคลี่คลายข้อพิพาท โดยแหล่งข่าวรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ไม่ต้องการจัดการเจรจาสัปดาห์หน้า เพราะมองว่าการตั้งกำแพงภาษีจะทำให้สหรัฐได้เปรียบในการต่อรองมากกว่า สวนทางกับกระทรวงการคลัง และ ลาร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ที่ระบุว่าต้องการผลักดันการส่งออกสินค้าสหรัฐไปจีนมากขึ้นเพื่อลดการขาดดุล

ขณะเดียวกัน ยูเอสทีอาร์ประกาศขยายเวลารับฟังความเห็นจากเอกชนเกี่ยวกับการตั้งภาษี 25% กับสินค้าจีน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.6 ล้านล้านบาท) ไปเป็นเวลา 6 วัน จากเดิม 3 วันในช่วงสัปดาห์หน้า ก่อนภาษีดังกล่าว คาดว่าจะมีผลบังคับในวันที่ 5 ก.ย.นี้

รอยเตอร์สรายงานว่า การขยายเวลาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเอกชนจำนวนมากยื่นคำร้องว่าการตั้งภาษีกับสินค้าจีนจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เพราะทำให้บริษัทมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาษีกับสินค้าจีน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 5.3 แสนล้านบาท) จะมีผลบังคับในวันที่ 23 ส.ค.นี้

ภาพ เอเอฟพี