posttoday

"ชีวิตใหม่"หลังใบหน้าที่หายไป ของหญิงสาววัย21

16 สิงหาคม 2561

นิตยสาร National Geographic เผยแพร่เรื่องราวชีวิตของหญิงสาววัย21ปี ที่กลายเป็นผู้รับการเปลี่ยนถ่ายใบหน้าชาวอเมริกัน อายุน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์

นิตยสาร National Geographic เผยแพร่เรื่องราวชีวิตของหญิงสาววัย21ปี ที่กลายเป็นผู้รับการเปลี่ยนถ่ายใบหน้าชาวอเมริกัน อายุน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์

นิตยสาร National Geographic ฉบับล่าสุด สร้างความฮือฮาด้วยการเกาะติดชีวิตของหญิงสาววัย 21 ปี ซึ่งกลายเป็นผู้รับการเปลี่ยนถ่ายใบหน้าชาวอเมริกัน ที่มีอายุน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ เธอมีชื่อว่า เคต สตับเบิลฟีลด์

เมื่อเดือน มี.ค. 2014 เคตมีอายุเพียง 18 ปี พบว่าแฟนหนุ่มของเธอส่งข้อความไปหาหญิงสาวอีกคนจึงเกิดความน้อยใจ อีกทั้งเพิ่งรับการผ่าตัดรักษาอาการป่วยเรื้อรังเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ทำให้อารมณ์ของเธอหุนหันพลันแล่น บีบให้เธอคิดสั้น ระหว่างเดินทางไปเยี่ยมพี่ชายที่รัฐเทนเนสซี เธอจึงใช้ปืนยาวสำหรับล่าสัตว์ของพี่ชายหันปากกระบอกเข้าใส่ปากแล้วลั่นไกฆ่าตัวตาย

เมื่อ โรเบิร์ต ผู้เป็นพี่ชายมาพบเข้า ก็เห็นน้องสาวนอนจอมกองเลือด ใบหน้าที่เคยสะสวยหายไปหมดสิ้น แต่ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้ายที่หญิงสาวยังมีชีวิตอยู่ จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ทว่า ในเวลานี้ส่วนหน้าผาก จมูก โพรงจมูก และขากรรไกรหายไปเกือบหมด ปากเหลือแค่ส่วนมุม และดวงตาของเธอได้รับความเสียหายอย่างหนักแต่ยังไม่บอด

ศัลยแพทย์ที่เมมฟิสต้องพยายามสร้างใบหน้าขึ้นมาใหม่ด้วยเนื้อเยื่อจากหน้าท้อง แต่พบกับความล้มเหลว จึงต้องส่งตัวไปรับการรักษาต่อที่คลีฟแลนด์ ทั้งๆ ที่กะโหลกศีรษะเปิดโล่งจนเห็นมันสมองด้านใน

แพทย์ที่ทำการสร้างใบหน้าขึ้นมาใหม่คือ ไบรอัน แกตส์แมน ทำการสร้างโพรงจมูกขึ้นมาใหม่ รวมถึงขากรรไกรและพื้นที่ของใบหน้า โดยใช้เป็นโครงไทเทเนียม แต่ตอนนี้ใบหน้าของเคตแทบจะเรียกว่าเป็นใบหน้าไม่ได้ เวลาออกไปข้างนอกต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าคลุมหน้า แถมหลานสาวยังกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้

ถึงตอนนี้หญิงสาวรู้สึกเสียใจที่คิดสั้นจนทำให้คนในครอบครัวต้องลำบากไปด้วย เธอบอกว่า "ฉันไม่เคยคิดทำเรื่องแบบนั้นมาก่อนเลย (การฆ่าตัวตาย) ฉันรู้สึกแย่มากที่ทำให้ครอบครัวต้องเจ็บปวดแบบนั้น ฉันรู้สึกแย่จริงๆ"

"ชีวิตใหม่"หลังใบหน้าที่หายไป ของหญิงสาววัย21

หลังจากพยายามประคับประคองเรื่อยมา ในที่สุดคณะแพทย์แนะนำให้ครอบครัวว่าควรจะปลูกถ่ายใบหน้าใหม่ให้กับเคต ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่มากๆ จนคนในครอบครัวสตับเบิลฟีลด์ไม่เคยได้ยินมาก่อน แม้แต่เคตก็ไม่เคยได้ยินเช่นกัน แต่พ่อกับแม่พยายามอธิบายให้ลูกสาวเข้าใจ จนเธอรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ใบหน้าใหม่

หลังจากรอผู้บริจาคใบหน้ามานานกว่า 1 ปี ก็ได้ผิวหนังที่เข้ากับผิวหนังของเคต นั่นคือใบหน้าของผู้บริจาคที่ชื่อ อาเดรีย ชไนเดอร์ ที่เสียชีวิตในวัย 31 ปี และคุณย่าของผู้ตายตัดสินใจมอบใบหน้าของหลานสาวให้กับเคต

National Geographic ทำการติดตามการผ่าตัดครั้งนี้อย่างใกล้ชิด โดยผู้รับผิดชอบคือคลีฟแลนด์ คลินิก ในรัฐโอไฮโอ ซึ่งผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายใบหน้ามาแล้ว 2 คน

เคตถือเป็นคนที่ 3 และคนที่ 40 ของโลก การผ่าตัดมีขึ้นในเดือน พ.ค. โดยทีมแพทย์ 11 คน เบื้องต้นใช้เครื่องพรินต์ 3 มิติสร้างขากรรไกรล่างขึ้นมาใหม่ โดยใช้ขากรรไกรของพี่สาวเคตมาเป็นแบบ หลังจากผ่านไป 31 ชม. การเปลี่ยนถ่ายใบหน้าใหม่ก็เสร็จสิ้น เคตมีใบหน้าที่สมบูรณ์และใช้งานได้อีกครั้ง

หลังจากนี้ เคตวางแผนที่จะเรียนระดับอุดมศึกษาผ่านทางออนไลน์เพื่อสานต่อความฝันที่จะเป็นนักพูดให้กำลังใจ เพื่อกระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงผลจากการฆ่าตัวตาย เธอบอกว่า "มีคนหลายคนคอยช่วยเหลือฉัน ตอนนี้ถึงเวลาที่ฉันจะช่วยเหลือคนอื่นบ้างแล้ว"

ภาพ National Geographic

ที่มา www.m2fnews.com