เมื่อ"รวันดา"สั่งห้ามใช้ถุงพลาสติด ผลลัพธ์ที่ได้คือเมืองหลวงสุดสะอาด
"กรุงคิกาลี" เมืองหลวงของประเทศรวันดา กำลังกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ทันสมัย และสะอาดแบบสุดๆ
"กรุงคิกาลี" เมืองหลวงของประเทศรวันดา กำลังกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ทันสมัย และสะอาดแบบสุดๆ
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักข่าว Bloomberg เสนอรายงานข่าวเรื่อง Rwanda’s Capital is Attracting Tourists (เมืองหลวงของรวันดากำลังดึงดูดนักท่องเที่ยว) เป็นสารคดีเชิงข่าวเกี่ยวกับกรุงคิกาลี เมืองหลวงของประเทศรวันดา ตอนกลางของทวีปแอฟริกา ซึ่งเคยมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ในฐานะทุ่งสังหารในช่วงสงครามกลางเมือง มีผู้คนล้มตายมากมายจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่วันนี้คิกาลีกำลังกลายเป็นเมืองที่ทันสมัย ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะมาเยือน และที่สำคัญคือคิกาลีเป็นเมืองที่สะอาดอย่างเหลือเชื่อ
ในเวลานี้ คิกาลีพยายามเลียนแบบการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวทางของสิงคโปร์และกรุงโซลของเกาหลีใต้ และยังมุ่งมั่นที่จะทำให้เมืองทั้งเมืองสะอาดปราศจากขยะรกหูรกตา มีการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกิจกรรมทำความสะอาดครั้งใหญ่ในชุมชนที่ตัวเองอยู่อาศัยเดือนละครั้ง คือทุกๆ วันเสาร์ที่ 4 ของเดือน
นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งห้ามใช้ถุงพลาสติกทั่วประเทศ รวมถึงในเมืองหลวง และห้ามนำเข้าถุงพลาสติกจากต่างประเทศ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังรวันดาจะได้รับคำเตือนห้ามนำถุงพลาสติกเข้ามา ยกเว้นว่าจะใช้ในอุตสาหกรรมที่จำเป็นต่อชีวิต เช่น ใช้ในด้านสาธารณสุข ซึ่งมาตรการห้ามถุงพลาสติกในรวันดาเป็นเรื่องที่จริงจังมาก
หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี โดยโทษมีทั้งจำคุกสูงสุด 6 เดือนสำหรับผู้ลักลอบนำเข้ามา ผู้บริหารบริษัทที่ใช้ถุงพลาสติกอาจถูกจำคุกถึง 1 ปี และทั้งปรับ และในบางกรณีผู้ที่ละเมิดจะถูกบังคับให้เขียนจดหมายเปิดผนึกประจานความผิดตัวเอง
เพราะมาตรการที่เข้มงวดนี้ ทำให้คิกาลีกลายป็นเมืองหลวงที่สะอาดเอี่ยมแทบไม่มีขยะให้เห็นสักชิ้นบนท้องถนน ภาพที่ออกมาทำให้คิกาลีดูทันสมัยเหมือนเมืองในประเทศที่พัฒนาแล้ว
นอกจากนี้ The New York Times ยังตั้งข้อสังเกตว่า "มาตรการที่ไม่ประนีประนอมกับการใช้ถุงพลาสติกของระวันดาส่งผลให้เห็นแล้ว ท้องถนนของเมืองหลวงคือ คิกาลี และหลายแห่งในประเทศที่มีประชากรหนาแน่นและเป็นเนินเขาแห่งนี้ดูไร้ที่ติ เรามักเห็นผู้ชายและผู้หญิงออกมาทำความสะอาดตามริมถนน ประชาชนต้องร่วมกันทำความสะอาดใหญ่ในชุมชนเดือนละครั้ง แม้แต่ประธานาธิบดีเองก็ด้วย"
ภาพ Bloomberg
ที่มา www.m2fnews.com