posttoday

ผลวิจัยชี้โลกเสี่ยงร้อนจัดจนมนุษย์อาศัยอยู่ไม่ได้!

08 สิงหาคม 2561

ผลวิจัยชี้การลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามเป้าหมายลดโลกร้อน อาจไม่เพียงพอต่อการหยุดยั้งไม่ให้โลกใบนี้กลายเป็นเตาอบ

ผลวิจัยชี้การลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามเป้าหมายลดโลกร้อน อาจไม่เพียงพอต่อการหยุดยั้งไม่ให้โลกใบนี้กลายเป็นเตาอบ

ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนสุดโหดอุณหภูมิทะลุ 40 องศาเซลเซียส ในยุโรปและเอเชียอย่างเกาหลีและญี่ปุ่น มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งจากทีมนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกที่ได้ผลลัพธ์น่าตกใจว่า โลกของเรายังมีความเสี่ยงกลายเป็นเตาอบขนาดใหญ่จนมนุษย์ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ โดยอุณหภูมิอาจเพิ่มขึ้นอีก 4-5 องศาเซลเซียส แม้ว่านานาชาติจะสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ตามเป้าหมายข้อตกลงลดโลกร้อนก็ตาม

ผลการวิจัยด้านสภาพภูมิอากาศโลกซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of The National Academy of Sciences ระบุว่า อุณหภูมิของโลกกำลังพุ่งไปสู่จุดเดือด ขณะที่ระดับน้ำทะเลก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกราว 10-60 ม. ในหลายร้อยปีข้างหน้า จนนำมาสู่ภาวะที่เรียกว่า Hothouse Earth หรือเทียบได้กับการอาศัยอยู่ในเตาอบ ซึ่งเป็นสภาพที่เลวร้ายที่สุดและร้อนที่สุดในรอบ 1.2 ล้านปีที่ผ่านมา โดยที่มนุษย์ได้แต่ก้มหน้ารับผลของการกระทำเพราะไม่สามารถหยุดยั้งหรือแก้ไขได้

ทีมวิจัยยังเตือนอีกว่า แต่ละปีป่าไม้ มหาสมุทร และพื้นดินช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 4,500 ล้านตัน แต่หากโลกร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง แหล่งดูดซับก๊าซเหล่านี้อาจกลายเป็นต้นตอของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเสียเอง และทำให้ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือ ธรรมชาติที่คอยปกป้องมนุษย์อาจถูกความร้อนเล่นงานจนแปรเปลี่ยนเป็นศัตรูของมนุษย์แทน

ผลวิจัยชี้โลกเสี่ยงร้อนจัดจนมนุษย์อาศัยอยู่ไม่ได้!

ดังนั้น จึงไม่สำคัญเลยว่าชั้นดินเยือกแข็งในแถบขั้วโลกหรือป่าผืนใหญ่ของโลกอย่างอเมซอนจะดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กี่ล้านตัน เพราะหากโลกร้อนขึ้น 2 องศาเซลเซียสจากระดับอุณหภูมิก่อนยุคอุตสาหกรรมก็ยิ่งมีโอกาสสูงที่องครักษ์ทางธรรมชาติเหล่านี้จะปล่อยก๊าซออกมาในปริมาณมากกว่าที่ดูดซับเข้าไปในปัจจุบัน

สิ่งที่ทีมวิจัยเป็นห่วงคือ ความร้อนที่มนุษย์ปล่อยออกมาจะยิ่งเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาต่างๆ บนโลกให้เกิดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยก๊าซมีเทนของชั้นดินเยือกแข็ง น้ำแข็งขั้วโลกละลาย การลดลงของทะเลน้ำแข็งในแถบอาร์กติกและแผ่นน้ำแข็งขั้วโลก ซึ่งหากเกิดขึ้นแล้วจะกลายเป็นโดมิโนเอฟเฟกต์พังไปตามๆ กัน โดยไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้

ด้วยเหตุนี้ ข้อตกลงของนานาชาติที่จะร่วมมือกันควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียส และจำกัดเป้าหมายการเพิ่มไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียส อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะหยุดหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามา

ภาพ เอเอฟพี

ที่มา www.m2fnews.com