posttoday

สหรัฐรุกอินโด-แปซิฟิก อัดเงินเกือบ4,000ล้านบาทกระตุ้นเศรษฐกิจ

01 สิงหาคม 2561

สหรัฐจับมือออสเตรเลียญี่ปุ่น ลงทุนเกือบ 4,000 ล้าน ดันยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก หวังคานอิทธิพลจีน

สหรัฐจับมือออสเตรเลียญี่ปุ่น ลงทุนเกือบ 4,000 ล้าน ดันยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก หวังคานอิทธิพลจีน

ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ประกาศแผนการลงทุนพัฒนาด้านเศรษฐกิจ มูลค่า 113 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,700 ล้านบาท) ภายใต้ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ที่มุ่งเพิ่มความร่วมมือกับกลุ่มประเทศในภูมิภาค เพื่อคานการแผ่อิทธิพลของจีนจากโครงการ 1 แถบ 1 เส้นทาง (OBOR)

ทั้งนี้ ออสเตรเลียและญี่ปุ่น ซึ่งเป็น 2 ชาติพันธมิตรหลักในยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก เข้าร่วมการลงทุนด้วยเช่นกัน โดยนิกเกอิ เอเชียน รีวิว รายงานว่า แผนดังกล่าวมุ่งเน้น 3 ด้านหลัก แบ่งเป็น การลงทุน 25 ล้านดอลลาร์ (ราว 831 ล้านบาท) เพื่อขยายการส่งออกด้านเทคโนโลยีของสหรัฐไปยังประเทศอินโด-แปซิฟิก และเพิ่มการลงทุน 50 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,600 ล้านบาท) ภายในปีนี้ สำหรับช่วยประเทศต่างๆ ในการผลิตและจัดเก็บแหล่งพลังงาน รวมถึงให้ความช่วยเหลือ 30 ล้านดอลลาร์ (ราว 997 ล้านบาท) เพื่อสร้างเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน

อย่างไรก็ตาม แผนการลงทุน ดังกล่าวของสหรัฐนับว่าเป็นวงเงิน น้อยมากเมื่อเทียบกับการลงทุนใน โครงการ OBOR จากจีน เช่น การลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถานวงเงิน 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 2 ล้านล้านบาท)

สำหรับการกระชับความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศเอเชีย พอมเพโอจะเยือนกลุ่มประเทศอาเซียนในวันที่ 1-5 ส.ค.นี้ เริ่มต้นด้วยการหารือกับนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮัมหมัด แห่งมาเลเซีย แล้วเดินทางไปสิงคโปร์เพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน และปิดท้ายด้วยการเยือนอินโดนีเซีย

นอกจากนี้ สหรัฐและญี่ปุ่นจะจัดการเจรจาการค้าระดับสูงครั้งแรกวันที่ 9 ส.ค.นี้ นำโดย โทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ที่จะพบปะกับ โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ คาดว่าจะพูดคุยความร่วมมือผลักดันการพัฒนาภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเด็นสหรัฐจะตั้งกำแพงภาษี 25% กับรถยนต์นำเข้า

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์จีนเตรียมเพิ่มการตรวจสอบการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะการเข้าซื้อและควบรวมกิจการในเทคโนโลยีที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ โดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคง ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าจีนกำลังเตรียมตอบโต้ชาติตะวันตก