หนุ่มใหญ่มาเลย์เผย อยากแต่งเด็กหญิงไทยตั้งแต่ 7 ขวบ

หนุ่มใหญ่มาเลย์วัย 41 ซึ่งแต่งงานกับเด็กหญิงไทยวัยเพียง 11 ขวบ เผยว่าเฝ้ารอมา 5 ปีเพื่อให้เด็กหญิงมาเป็นภรรยาคนที่สาม

ความคืบหน้ากรณีที่นาย อับดุล เจ๊ะ การิม พ่อค้ายางพาราชาวมาเลเซีย วัย 41 ปี ซึ่งประกาศแต่งงานกับภรรยาคนที่สาม เป็นเด็กหญิงสัญชาติไทย อายุเพียง 11 ปี โดยมีพิธีสมรสที่อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งได้สร้างความตกตะลึงให้กับบรรดานักสิทธิมนุษยชนในมาเลเซียอย่างมาก และพยายามยับยั้งการแต่งงานครั้งนี้

โดยล่าสุดเดอะสตาร์ออนไลน์ สื่อมาเลเซียรายงานว่า นายเจ๊ะ การิม ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเหตุที่ต้องการรับเด็กหญิงวัย 11 ปี มาเป็นภรรยาคนที่สาม ไม่ใช่เพราะตัณหาราคะ เพราะเขาอยากแต่งงานกับเธอตั้งแต่เธออายุได้เพียง 7 ขวบแล้ว และเฝ้ารอเธอจนถึงวันนี้ และจะรอไปจนกว่าเด็กหญิงจะอายุ 16 ปี ตามกฎหมายของมาเลเซียที่กำหนดอายุขั้นต่ำแต่งงานสำหรับฝ่ายหญิงไว้ที่ 16 ปี ซึ่งทั้งสองจะสามารถอยู่กินร่วมชายคาฉันท์สามีภรรยาได้

นายเจ๊ะ การิน ยังว่า ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากรู้สึกแต่งงานกับเด็กหญิงคนนี้ แต่ไม่ใช่เพราะตัณหาราคะ เพราะเขารู้จักเธอตั้งแต่ยังเล็กๆ และเป็นเพื่อนบ้านกัน แถมยังเคยสอนให้เธอเรียนคัมภีร์กุรอ่าน และเขาบอกกับตัวเองว่าสักวันหนึ่งจะแต่งงานกับเธอให้ได้ ซึ่งเขารอวันนั้นมาเกือบ 5 ปี

เขายังบอกอีกว่า จะไม่แตะต้องเธอจนกว่าเธอจะอายุ 16 ปี นายเจ๊ะ การิน ยังเผยอีกว่า การแต่งงานของเขากับเด็กหญิงนั้น มีแต่โลกภายนอกเท่านั้นที่ช็อกกับข่าวนี้ แต่ในรัฐกลันตัน ชาวบ้านและเพื่อนๆของเขารู้มาระยะหนึ่งแล้ว เขายังเคยนำรูปของเด็กหญิงให้เพื่อนๆดูในระหว่างแสวงบุญในนครเมกกะ ทุกคนล้วนอวยพรให้ เนื่องจากเด็กหญิงมีฐานะยากจนและไม่ได้เรียนหนังสือ

อย่างไรก็ดีเขายังไม่ได้นำเด็กหญิงไปพบกับภรรยาคนแรกและคนที่สอง แต่เขาสัญญาจะรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ดีที่สุด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ศาลชารีอะห์ หรือศาลศาสนาอิสลาม ในรัฐกลันตัน ได้สั่งปรับนายเจ๊ะ การิน เป็นจำนวนเงิน 1,800 ริงกิต หรือราว 14,000 บาท ฐานที่แต่งงานกับภรรยาคนที่สามโดยที่ไม่ได้รับอนุมัติจากทางศาล และไม่ได้รับการอนุมัติจากทางภรรยาคนก่อนหน้า