posttoday

"โลกควรจะได้รับรู้ความสำเร็จครั้งนี้" กู้ภัยสหรัฐเผยเรื่องราวระหว่างภารกิจช่วยทีมหมูป่า

12 กรกฎาคม 2561

หัวหน้าทีมกู้ภัยของกองทัพสหรัฐ ได้เผยถึงเหตุการณ์ช่วงที่มีการลำเลียงเด็กๆทีมหมูป่าออกจากถ้ำ พร้อมบอกว่า "โลกควรจะได้รับรู้ความสำเร็จครั้งนี้"

หัวหน้าทีมกู้ภัยของกองทัพสหรัฐ ได้เผยถึงเหตุการณ์ช่วงที่มีการลำเลียงเด็กๆทีมหมูป่าออกจากถ้ำ พร้อมบอกว่า "โลกควรจะได้รับรู้ความสำเร็จครั้งนี้"

ดีเรก แอนเดอร์สัน วัย 32 ปี หัวหน้าทีมกู้ภัยของกองทัพสหรัฐ ที่เข้าร่วมในปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่าและโค้ช จากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพีว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต และชื่นชมว่าเด็กๆ กับโค้ชมีความสามารถเอาตัวรอดที่เหลือเชื่ออย่างมาก

แอนเดอร์สันซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ภัยจากฐานทัพอากาศสหรัฐบนเกาะโอกินาวะ ประเทศญี่ปุ่น เผยว่า ตอนที่ทีมของเขาเดินทางมาถึงเมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 มิ.ย. ถ้ำยังแห้งอยู่ แต่ภายในเวลาเพียง 1 ชม.ครึ่ง น้ำก็เริ่มเจิ่งขึ้นมาประมาณ 2-3 ฟุต และเพียงแค่ช่วงเวลาเริ่มต้นนี่เอง ที่พวกเขาตระหนักว่าปัญหาที่กำลังจะเผชิญมีความซับซ้อนกว่าที่คาดไว้เพียงใด

เขาเผยว่า ระดับออกซิเจนที่ลดต่ำลงและความเสี่ยงจากอาการป่วย รวมถึงความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมหนักติดต่อกันหลายเดือน ทำให้โอกาสที่เด็กๆ จะปักหลักอยู่ในถ้ำในระยะยาวโดยมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้น้อยลงเรื่อยๆ

ทีมนักดำน้ำจึงทำการซ้อมการช่วยเหลือที่สระว่ายน้ำ โดยใช้ตัวแทนเป็นเด็กท้องถิ่นที่มีความสูงและน้ำหนักใกล้เคียงกันกับทีมหมูป่า เป้าหมายก็คือทำให้เด็กๆ กลายเป็น "แพ็กเก็จที่หนาแน่น" เพื่อที่นักดำน้ำจะสามารถควบคุมเด็กๆ และปรับการให้ออกซิกเจนได้สะดวก กระบวนการนำเด็กออกมาแต่ละคนใช้เวลานานหลายชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผ่านโพรงที่แคบมากๆ

แอนเดอร์สันบอกว่า หน้ากากออกซิเจนแบบเต็มหน้าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก เพราะถ้ามีน้ำไหลเข้าที่หน้ากากเพราะติดที่โพรงแคบๆ จนเด็กเกิดตื่นกลัวขึ้นมา หน้ากากดังกล่าวก็จะดันน้ำออกมา

"โลกควรจะได้รับรู้ความสำเร็จครั้งนี้" กู้ภัยสหรัฐเผยเรื่องราวระหว่างภารกิจช่วยทีมหมูป่า

การช่วยเหลือแต่ละครั้งใช้ทีมงานถึง 100 คน และเด็กแต่ละคนมีทีมงานประกบหลายสิบคนเพื่อช่วยผ่านจุดต่างๆ ในถ้ำ ในบางจุดต้องทีมนักดำน้ำช่วยนำทาง 2 คน แต่หากเป็นจุดที่แคบมากจริงๆ จะมีนักดำน้ำช่วยนำทางเพียงคนเดียว ในส่วนห้องโถงของถ้ำที่มีช่องอากาศจะมีนักดำน้ำช่วยประคอง 4 คน ในบางจุดเป็นที่แห้งแต่เป็นแง่งหินอันตรายหรือเป็นช่องลึก ซึ่งทางทีมงานได้วางเส้นทางเชือกเอาไว้แล้ว

นอกจากนี้ ยังมีการวางถังออกซิเจนเอาไว้ทั่วถ้ำเพื่อตระเตรียม โดยทั้งหมดเป็นออกซิเจน 80% ไม่ใช่อากาศปกติ เพราะระดับออกซิเจนที่มากกว่าปกติจะช่วยในเรื่องสภาพจิตใจของเด็กด้วย

แอนเดอร์สันบอกว่า โลกควรจะได้รับรู้ความสำเร็จครั้งนี้ เพราะเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน และตัวเขาคิดว่าไม่เคยเกิดเรื่องในทำนองนี้มาก่อน

"สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือโค้ชกับเด็กๆ มาผนึกกำลังกัน มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง มีแรงผลักดันที่อยากจะมีชีวิตอยู่ และจิตใจที่อยากจะเอาชีวิตรอด"

ที่มา www.m2fnews.om

ภาพจาก Thai NavySEAL