"ถ้าเชือกสั้นกว่านี้ คงไม่เจอพวกเขา" หนึ่งในกู้ภัยอังกฤษเปิดใจหลังพบทีมหมูป่า
เวอร์นอน อันเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ เผยผ่านสื่อถึง "จอห์น โวลันเธน" นักดำน้ำถ้ำผู้พบ 13 ชีวิต ระบุหากเชือกสั้นกว่านี้ก็คงไม่พบ
เวอร์นอน อันเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ เผยผ่านสื่อถึง "จอห์น โวลันเธน" นักดำน้ำถ้ำผู้พบ 13 ชีวิต ระบุหากเชือกสั้นกว่านี้ยังไม่พบ
หลังจากที่การพบทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต ที่ติดในถ้ำหลวงได้กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลกนั้น ด้านสำนักข่าวเดอะนิวยอร์กไทมส์ได้สัมภาษณ์คุณเวอร์นอน อันเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำที่เคยเข้าสำรวจถ้ำหลวงเมื่อหลายปีมาแล้ว ซึ่งเขาได้ร่วมทีมกับนักดำน้ำในถ้ำอีก 3 คนจากอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้นำทางหน่วยซีลของไทยจนพบทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ถึงคลิปเมื่อวานนี้ที่หน่วยซีลของไทยเผยแพร่เป็นคลิปแรกหลังพบทีมหมูป่านั้น คุณจอห์น โวลันเธน ซึ่งเป็นหนึ่งในสามนักดำน้ำจากอังกฤษ และเป็นเจ้าของเสียงแรก How many of you? ได้เล่าให้คุณเวอร์นอนฟังว่า
"หากเชือกสั้นกว่านี้ 15 ฟุต เขาคงตัดสินใจหันหัวกลับไปแล้ว และคงไม่ได้พบทั้ง 13 คน ประกอบกับภายในถ้ำนั้นมืดมากมันยากที่จะเจอดวงตาทั้ง 13 คู่" คุณเวอร์นอนเผยอีกว่า ทั้งคุณโวลันเธน และคุณสแตนตัน สองนักดำน้ำจากอังกฤษรับหน้าที่เป็นผู้นำหน้าหน่วยซีลเขาไปปักเชือกตามแนวหินภายในถ้ำ เพื่อให้หน่วยซีลของไทยสามารถเดินทางแนวเชือกตามแนวถ้ำได้อย่างสะดวก และไม่ให้หลงถ้ำ หรือที่เรียกว่าแนวเบสไลน์
ขณะนั้นเองปลายของเชือกได้สิ้นสุดลงคุณโวลันเธนได้โผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำ ในวินาทีนั้น เขาได้ส่องไฟไปทั่วบริเวณจนกระทั้งพบกับดวงตาทั้ง 13 คู่ ที่จ้องมายังเขา จึงเอยถามเด็กๆว่า How many of you?
คุณเวอร์นอนเผยจากคำบอกเล่าของคุณโวลันเธนว่า หากเชือกไม่สิ้นสุดตรงนั้นพอดี หรือหากเชือกสั้นกว่านี้ซัก 15 ฟุต เขาคงไม่ได้พบกับดวงตาทั้ง 13 คู่ที่รอคอยความหวังท่ามกลางความมืด และคงหันหัวกลับไปตั้งหลักยังโถงสาม
ทั้งนี้ ด้านสถานีโทรทัศน์ช่องบีบีซีวัน ของอังกฤษได้ไปสัมภาษณ์คุณจิล โวลันเธน มารดาของคุณจอห์น โวลันเธน โดยเธอกล่าวว่า เธอรู้สึกภาคภูมิใจลูกชายของเธอที่่สุด และเธอดีใจแทนแม่ของเด็กๆทั้ง 13 คน เธอเขาใจความรู้สึกนี้ดีเพราะในบางครั้งเธอก็รู้สึกหวั่นใจว่าหากลูกชายของเธอซึ่งปฎิบัติงานในถ้ำอาจจะได้รับอันตรายเช่นกัน
ขณะที่มาร์ติน ฟารร์ เพื่อนของคุณโวลันเธน และคุณสแตนตัน กล่าวว่า "ทั้งสองเป็นคนที่สงบมาก และมีการจัดการที่ดี พวกเขาล้วนเป็นมืออาชีพที่สมบูรณ์แบบ"
ที่มา : https://www.nytimes.com/2018/07/03/world/