posttoday

ย้อนเหตุการณ์ภารกิจกู้ภัยระทึกโลก

27 มิถุนายน 2561

ต้องรอด! ย้อนรอยปาฏิหาริย์กู้ภัย 33 คนงานเหมืองชิลี ติดอยู่ใต้ดิน 69 วัน

ต้องรอด! ย้อนรอยปาฏิหาริย์กู้ภัย 33 คนงานเหมืองชิลี ติดอยู่ใต้ดิน 69 วัน

ในขณะที่ตอนในปฎิบัติการภารกิจกู้ภัยนักฟุตบอลเยาวชน และโค้ชรวม 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงรายจะเข้าวันที่ 5 แล้ว แต่ทุกหน่วยงานก็ยังคงระดมกำลังอย่างสุดความสามารถในการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งในการปฎิบัติการกู้ภัยครั้งนี้ทางโพสต์ทูเดย์ออนไลน์จะพาไปย้อนชมสุดยอดภารกิจกู้ภัยที่เคยสร้างความระทึกไปทั้งโลก สำหรับเหตุการณ์คนงานเหมือนในประเทศชิลีจำนวน 33 ชีวิต ติดอยู่ลึกลงลงไปในใต้ดินราว 700 เมตร และต้องใช้เวลาในการกู้ภัยนานถึง 69 วัน

 

ย้อนเหตุการณ์ภารกิจกู้ภัยระทึกโลก

 

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 5 สิงหาคม ถึง13 ตุลาคม 2010  ที่เหมืองในโกเปียโป ประเทศชิลี (2010 copiapó mining accident) โดยเหตุเกิดจากโครงสร้างของเหมืองที่ไม่มั่นคงและเกิดพังถล่มลงมาจนเป็นเหตุให้คนงานเหมืองทั้ง 33 คน ติดอยู่ใต้ดิน โดยมีการพบสัญญาณชีพว่าคนงานเหมืองทั้งหมดยังคงรอคอยความช่วยเหลือ

หลังจากนั้นวันที่ 22 สิงหาคม ราว 17 วันหลังจากเกิดเหตุเหมืองถล่ม เจ้าหน้าที่เหมืองได้รับแจ้งว่ามีคนงานทำงานในเหมืองราว 130 คน เจ้าหน้าที่ซึ่งได้ระดมกำลังเข้าช่วงเหลือได้พบสัญญาณชีพว่า ผ่านทางกระดาษข้อความเขียนว่า มีคนงานเหมืองจำนวน 33 คนยังติดอยู่ใต้ดินและยังสบายดี โดยพวกเขาหลบอยู่ในโถงนิรภัย รวมทั้งยังมีอาหารและน้ำพอประทังชีวิตได้ระยะหนึ่ง

 

ย้อนเหตุการณ์ภารกิจกู้ภัยระทึกโลก กระดาษที่คนงานเหมือนเขียนระบุว่าทั้ง 33 คนปลอดภัย

 

วันที่ 3 กันยายน เกือบ 1 เดือนหลังจากเหตุถล่ม นั้นปฏิบัติการกู้ภัยได้เริ่มต้นอย่างจริงจัง โดยมีการใช้เครื่องเจาะเป็นรูลงไปด้านล่าง แต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคเมื่อเครื่องเจาะผ่านชั้นหินที่แข็งมาก จนต้องมีการนำหัวเจาะจากต่างประเทศเข้ามาช่วยงาน จึงนำเนินการเจาะรู้ต่อไป แต่การเจาะก็ต้องเป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากมีหินขนาดใหญ่เท่ากับตึก 10 ชั้นขวางทางขุดเจาะอยู่ ซึ่งหากเกิดความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้เกิดอันตรายต่อทั้ง 33 ชีวิตที่ติดอยู่ข้างใต้

จนกระทั้งวันที่ 27 สิงหาคม ก็สามารถขุดเจาะไปยังส่วนที่ทั้ง 33 ชีวิตติดอยู่ และมีการส่งภาพวิดิโอแรกกลับมายังบนพื้นดิน และฝากไปยังครอบครัวของพวกเขา รวมถึงยังสามารถส่งความช่วยเหลือด้านอาหารและน้ำ รวมถึงสิ่งของต่างๆผ่านช่องขนาดเล็กที่เจาะลงไปถึงจุดทื่คนงานติดอยู่

 

ย้อนเหตุการณ์ภารกิจกู้ภัยระทึกโลก

 

 

วันที่ 5 กันยายน  ปฏิบัติการขุดเจาะช่วยเหลือได้เริ่มต้นขึ้น เครื่องขุดเจาะขนาดใหญ่ Schramm T130XD เริ่มทำงาน โดยต้องขุดเจาะตามแบบแผนต้องเจาะลึกลงตามระดับชั้นดิน โดยต้องใช้เวลาในการวางแผนอย่างรอบคอบโดยแบ่งเป็นการเจาะแบบแผน A แผน B และ แผน C โดยการเจาะจะเป็นการเจาะให้มีขนาดใหญ่พอที่จะพาคนงานทั้ง 33 คนออกมาได้

วันที่ 24 กันยายน ถึงขณะนี้นับเป็นเวลากว่า 50 วันแล้วที่คนงานเหมืองติดอยู่ใต้ดิน ซึ่งเป็นระยะเวลานานที่สุดในประวัติศาสตร์ การขุดเจาะยังคงดำเนินต่อไป

 

ย้อนเหตุการณ์ภารกิจกู้ภัยระทึกโลก

 

 

จนกระทั้งวันที่ 11 ตุลาคม แคปซูลที่มีชื่อว่า"ฟีนิกซ์" มีลักษณะเป็นกระสวยขนาดมีเซนผ่าศูนย์กลาง 54 เซนติเมตร ซึ่งทางรัฐบาลชีลีได้ขอความช่วยเหลือไปทางองค์การนาซาของสหรัฐในการดัดแปลงกระสวยดังกล่าวรวมกับกองทัพของชิลี เพื่อใช้สำหรับภารกิจกู้ภัยนี้โดยเฉพาะ

 

ย้อนเหตุการณ์ภารกิจกู้ภัยระทึกโลก

 

วันที่ 12 ตุลาคม คนงานเหมืองคนแรกทยอยนำขึ้นสู่พื้นดินครั้งละ 1 คน ตลอดทั้งคืน โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 22 ชั่วโมง 50 นาที จนกระทั้งเวลา 21:56 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 13 ตุลาคม คนงานเหมืองทั้ง 33 คน ก็สามารถช่วยขึ้นมาบนพื้นดินได้สำเร็จ

 

ย้อนเหตุการณ์ภารกิจกู้ภัยระทึกโลก

 

โดยเหตุการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นปฎิบัติการช่วยเหลือครั้งปาฏิหาริย์ทั้งคนงานทุกคนปลอดภัย และภายหลังมีการถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์ที่ใช้ชื่อว่า "The 33" ด้วย

 

ย้อนเหตุการณ์ภารกิจกู้ภัยระทึกโลก