สิงคโปร์ได้อะไรจากการจัดซัมมิททรัมป์-คิม

รัฐบาลสิงคโปร์มีแต่ได้กับได้ จากการจ่าย 20 ล้านเหรียญ เพื่อจัดประชุมสหรัฐ-เกาหลีเหนือ

เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุง ของสิงคโปร์ได้เผยต่อผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลสิงคโปร์ได้ทุ่มเงินราว 20 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 470 ล้านบาท เพื่อเตรียมการเป็นประเทศเจ้าภาพในการจัดประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ของสองผู้นำสหรัฐ และเกาหลีเหนือในครั้งนี้้ โดยส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายด้านการรักษาความปลอดภัย ทั้งทางบก และทางอากาศ เพื่อรองรับทั้งสองผู้นำ รวมถึงเพื่อเตรียมการรองรับทัพผู้สื่อข่าวทั่วโลกกว่า 3,000 ที่จะติดตามรายงานข่าวประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ซึ่งนับว่าเป็นการรองรับการประชุมครั้งที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์เท่าที่เคยจัดมา

เมื่อนักข่าวถามนายกลีว่า สิงคโปร์ได้อะไรจากการจัดประชุมครั้งนี้ นายกลีกล่าวว่า "หากคุณมัวแต่คำนวณแต่ต้นทุนทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก คุณจะพลาดสิ่งสำคัญไป และเรื่องนี้สิ่งสำคัญคือการประชุมสุดยอดที่เราได้เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น"

สำหรับเงิน 20 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ นายกลีกล่าวว่า "มันเป็นราคาที่เราเต็มใจจะจ่ายเพื่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคนี้"

ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ แน่นอนว่านอกจากจะเป็นการโปรโมตการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ไปด้วยแล้ว ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงบทบาทของสิงคโปร์ในเวทีโลกเรื่องการรักษาสันติภาพในภูมิภาคและของโลกด้วย จากที่คำกล่าวของนายกลีที่ระบุว่า การจ่ายเงินครั้งนี้เพื่อช่วยสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค ซึ่งหากความสัมพันธ์สหรัฐ-เกาหลีเหนือดีขึ้น ก็จะช่วยสร้างสันติภาพในภูมิภาคเอเชียไปด้วยในตัว นอกจากนั้นจะถือเป็นเครดิตที่สูงสุดของประเทศ เนื่องจากสามารถจัดการประชุมที่สำคัญที่สุดขนาดนี้ได้ รวมถึงเป็นการตอกย้ำความเป็นกลางของสิงคโปร์ นับเป็นทักษะทางการทูตที่เหนือชั้นและ เฉียบขาดของประเทศเล็กๆแต่ทรงอิทธิพลแห่งนี้