อียูขึ้นภาษีสหรัฐก.ค.นี้ ขู่ตั้งกำแพงก๊อก2อีกแสนล.

อียูยืนยันเตรียมขึ้นภาษีโต้สหรัฐ ก.ค.นี้ ขณะผู้นำเร่งส่งสัญญาณกดดันสหรัฐก่อนพบทรัมป์ในเวที จี7

คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) แถลงยืนยันว่า สหภาพยุโรป (อียู) จะดำเนินมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 2,800 ล้านยูโร (ราว 1.05 แสนล้านบาท) โดยคาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อตอบโต้ที่ถูกสหรัฐตั้งกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม และเป็นแรงกดดันล่าสุดก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (จี7) ในวันนี้

รายงานระบุว่า สินค้าที่จะถูกขึ้นภาษีครอบคลุมหลายประเภทตั้งแต่วิสกี้ไปจนถึงเรือยอชต์ ซึ่งสินค้าเกือบทั้งหมดจะถูกตั้งกำแพงภาษีที่ 25%

อย่างไรก็ดี หากในภายหลังยังไม่สามารถเจรจาแก้ปัญหากับสหรัฐได้ หรือไม่สามารถหาทางออกได้ผ่านทางองค์การการค้าโลก (ดับเบิ้ลยูทีโอ) อียูก็มีแผนจะตั้งกำแพงภาษีกับสหรัฐเป็นระลอก 2 ในอัตราระหว่าง 10-50% โดยจะครอบคลุมสินค้าราว 160 รายการ อาทิ กระดาษชำระ ครีมกันแดด กางเกงลูกฟูก และเซรามิก ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้าต่อปีสูงถึงราว 3,700 ล้านยูโร (ราว 1.4 แสนล้านบาท) และอาจบังคับใช้ได้ภายในเวลา 3 ปี

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติของเยอรมนี เปิดเผยว่า ยอดคำสั่งซื้อของภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ปรับตัวลง 2.5% และเป็นการลดลงต่อเนื่องเดือนที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศการค้าโลกที่ย่ำแย่มาตั้งแต่ช่วงต้นปี

ขณะเดียวกัน บรรดาผู้นำกลุ่ม จี7 ได้ทยอยส่งสัญญาณกดดันสหรัฐก่อน การประชุมวันที่ 8-9 มิ.ย. ที่แคนาดา โดยประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ระบุว่า จะไม่ลงนามในแถลง การณ์ร่วมหากที่ประชุมไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาเรื่องกำแพงภาษี ข้อตกลงอิหร่านและข้อตกลงโลกร้อนสอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรี อังเกลาร์แมร์เกิล ของเยอรมนี ระบุว่า หากที่ประชุมไม่สามารถประนีประนอมความขัดแย้งต่างๆ ได้ ก็อาจไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมได้ เช่นกัน