ส่องผลสำรวจสะท้อนมุมมองชาวอังกฤษ ไม่ใช่ทุกคนจะเทิดทูนราชวงศ์

ผลสำรวจเผยชาวอังกฤษราว 17% ต้องการ "สาธารณรัฐ" ขณะที่ 66% รู้สึก "ไม่อิน" กับพิธีเสกสมรสเจ้าชายแฮร์รี่

ท่ามกลางกระแส รอยัล เวดดิ้ง ฟีเวอร์ ระหว่างเจ้าชายแฮร์รี่ กับน.ส.เมแกน มาร์เคิล ที่กำลังจะมีขึ้นในวันเสาร์ (19 พ.ค.) นี้ ดูเหมือนกระแสการต่อต้านราชวงศ์ในอังกฤษก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน สำหรับประเทศอังกฤษนั้นขึ้นชื่อเรื่องแม่แบบประชาธิปไตยและเสรีภาพ จึงไม่แปลกที่ประเทศนี้จะมีกลุ่มคนที่สามารถรณรงค์แนวคิดระบอบ "สาธารณรัฐ" ในอังกฤษได้อย่างเปิดเผย

 ชอน อิกเกิลเดน และ ไนเจล แคทลิ่ง หนึ่งในสมาชิกกลุ่มผู้ต่อต้านราชวงศ์อังกฤษเผยกับสื่อว่า พวกเขามักจะได้ยินคำพูดถากถางจากหลายคนในทุกครั้งที่ออกไปรณรงค์แคมเปญนี้ ดังจะเห็นได้จาก เชอร์รี่ สตีเฟนสัน วัย 76 ปี กล่าวกับทั้งสองว่า "สิ่งที่พวกคุณคิดมันน่าขยะแขยง, อังกฤษเป็นประเทศที่ดี และพระบรมวงศานุวงศ์ก็รักประชาชน อังกฤษปกครองด้วยราชวงศ์มานานนับศตวรรษทำไมพวกคุณต้องคิดกำจัดพวกเขาด้วย?"

ไนเจล (ซ้าย) ชอน (ขวา)

 นี่คือหนึ่งในความคิดเห็นที่นักรณรงค์ทั้งสองรับฟัง แต่ถึงอย่างไรก็ดี แนวคิดของแคมเปญนี้กลับได้รับสนับสนุนจากคนบางกลุ่มของประเทศ โดยตามผลสำรวจของสถานบันวิจัย IPSOS Mori ระบุว่าราว 17 % ของชาวอังกฤษต้องการระบอบสาธารณรัฐ ซึ่งหากคำนวนแล้วจะเท่ากับราว 7.8 ล้านคน ของชาวอังกฤษที่มีสิทธิ์ออกเสียงทั่วประเทศราว 45 ล้านคน

ขณะที่อีก 55% ระบุว่า พวกเขาจะรู้สึกผิดหวัง หากระบบกษัตริย์อังกฤษสิ้นสุดลงหลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง ตามรายงานของเว็บไซต์ Gov.co.uk

 ชอน และ ไนเจลกล่าวว่า การรณรงค์ของพวกเขาไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย มันเป็นการเปิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น "เราไม่ได้พูดถึงการตัดคอราชวงศ์ หรือเอาพวกเขายิงทิ้งในป่าเหมือนในฝรั่งเศสและรัสเซีย และเราไม่ได้ต่อต้านพระบรมวงศ์องค์ใดเป็นพิเศษ เราไม่ได้ต่อต้านเอลิซาเบธ วินด์เซอร์ ผมเชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงที่วิเศษ ...เราแค่มีความเห็นว่าระบอบสาธารณรัฐมันเหมาะสมกับประเทศเรามากกว่า"

  "ผมเปรียบเทียบการสนับสนุนราชวงศ์ในการนับถือศาสนา เช่นเดียวกับความเชื่อ สิ่งที่เรากำลังทำคือการท้าทายความเชื่อมั่นของผู้คนในระบอบกษัตริย์"

 นายชอนยังกล่าวอีกว่า "ในทุุกๆครั้งที่มีพระราชพิธีสำคัญๆอย่างงาน พระราชพิธีฉลองพัชราภิเษกของสมเด็จพระราชินี หรือพิธีเสกสมรส เรากลับพบว่ากลุ่มของเรามีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นในทุกครั้ง"

 ทั้งนี้แนวคิดสำคัญของกลุ่มสนับสนุนสาธารณรัฐในอังกฤษระบุว่า "พระราชวงศ์ก็เหมือนกับครอบครัวทื่ไม่ได้ถูกเลือกเข้ามาโดยประชาชน พวกเขาแค่โชคดีที่เกิดมาเป็นราชวงศ์ ซึ่งไม่เหมาะสมจะเป็นผู้ปกครองในระบบประชาธิปไตยสมัยใหม่"

สำหรับประเทศอังกฤษใช้ระบอบการปกครองแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งนั้นหมายความว่ารัฐธรรมนูญย่อมจำกัดสิทธิ์บางประการ และก็ให้สิทธิ์พิเศษบางประการแก่สมเด็จพระราชินี

เช่น สมเด็จพระราชินีทรงสามารถประกาศสงครามได้ ลงนามประกาศหรือวีโต้กฎหมายได้ นอกจากนี้พระราชวงศ์อังกฤษยุคใหม่ยังมีหน้าที่ในการ "represent" ความเป็น"ชาติอังกฤษ" อย่างไรก็ดีสิ่งหนึ่งที่ทำให้บรรดาผู้นิยมสาธารณรัฐในอังกฤษจับตามองคือ หลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชินี และการสืบทอดบัลลังก์โดยเจ้าฟ้าชายชาลส์

ไนเจล แคทลิ่งกล่าวว่า "ชาวอังกฤษส่วนใหญ่รักและเทิดทูนในตัวสมเด็จพระราชินีนาถ .. ดังนั้นเมื่อถึงคิวของเจ้าฟ้าชายชาลส์แล้ว ผู้คนจะเริ่มตระหนักว่า นี่ไม่ใช่คนที่พวกเขาต้องการ"

 สำหรับเจ้าฟ้าชายชาลส์นั้นทรงขึ้นชื่อเรื่องข่าวฉาวมากมาย ทั้งไลฟ์สไตล์ส่วนพระองค์อย่างสุดหรู หรือการพยายามแทรกการเมือง เช่น กรณีในปี 2015 ที่ทรงเขียนจดหมายถึงรัฐมนตรีในหลายๆกระทรวงของอังกฤษถึง "ข้อแนะนำ" ในเรื่องต่างๆ ซึ่งบรรดาสื่อในอังกฤษให้ฉายากรณีนี้ว่า "black spider memos"

 อย่างไรก็ดีตามรายงานของ YouGov โพล ที่เผยผลสำรวจเมื่อเดือนที่ผ่านมาระบุว่า มีชาวอังกฤษถึง 66% รู้สึก "เฉยๆ" กับพิธีเสกสมรสที่จะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งนั่นหมายถึงประชากรราว 2 ใน3 เลยทีเดียว

"ปัจจุบันคนอังกฤษส่วนใหญ่สนใจแต่เรื่องของตนเอง เช่นช็อปปิ้ง หรือไปท่องเที่ยว มากกว่าที่จะมานั่งถกประเด็นในรัฐธรรมนูญและสถาบันกษัตริย์"  นายอิกเกิลเดนกล่าว

  ดูเหมือนว่าการรณรงค์ในแคมเปญดังกล่าวนั้นดูจะเป็นความท้าทายที่ยากมากหากคิดจะ "เปลี่ยนแปลง" ราชวงศ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์มานับร้อยๆปี ของอังกฤษ ซึ่งมันยากพอๆ กับการเลิกทาสในอเมริกาเสียอีก อย่างไรก็ดีสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบของสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริง ซึ่งเปิดกว้างต่อทุกความคิดเห็นที่หลากหลายอยู่เสมอ.. "GOD SAVE THE QUEEN"

ที่มา : https://www.nbcnews.com/news/world/

ภาพ : NBC, AFP