อาเซียนหวั่นศก.สะดุด เกรงเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น ค้า'จีน-สหรัฐ'ตึงเครียดกระทบชิ่ง

ขุนคลัง 3 ชาติอาเซียนมองเศรษฐกิจยังเสี่ยง จากจีนและสหรัฐขัดแย้งการค้า-เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย

ซีเอ็นบีซีรายงานว่า รัฐมนตรีคลังของ 3 ประเทศอาเซียน ได้แก่ คาร์ลอส โดมินเกซ จากฟิลิปปินส์ ศรี มุลยานี อินทรา วาตี ของอินโดนีเซีย และวงศรี วิสุทธิ์ จากกัมพูชา แสดงความวิตกว่า กลุ่มประเทศอาเซียนยังอาจเผชิญความเสี่ยงด้าน เศรษฐกิจ จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่ยังไม่คลี่คลายลงชัดเจน และการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ทั้งนี้ รัฐมนตรีทั้ง 3 เปิดเผยกับ ซีเอ็นบีซีระหว่างการเข้าร่วมประชุมประจำปีของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ว่า หากจีนที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของประเทศ ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ รวมถึงการถูกตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้า ประเทศอาเซียนจะได้รับผลกระทบตามมา เนื่องจากอาเซียนเป็นกลุ่มผู้ส่งออกหลักที่ป้อนวัตถุดิบเข้าสู่ซัพพลายการผลิตของจีน

แม้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า สงครามการค้าเต็มรูปแบบไม่มีแนวโน้มเกิดขึ้นในขณะนี้ หลังจีนและสหรัฐตกลงกันได้ในบางประเด็นระหว่างการเจรจาเมื่อวันที่ 3-4 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงที่เป็นรูปธรรมในการแก้ความขัดแย้ง หลังสหรัฐยื่นข้อเรียกร้องให้จีนปฏิบัติตามหลายประการ และยังไม่เปิดเผยชัดว่าจะยกเลิกการตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าจีนก่อนหน้านี้หรือไม่

นอกจากประเด็นการค้า แนวโน้มที่เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นในปีนี้ ยังเป็นความวิตกหลัก แม้หลายประเทศอาเซียนระบุว่าเตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว โดยจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐล่าสุด อัตราว่างงานในประเทศลดลงมาอยู่ที่ 3.9% ในเดือน เม.ย. ต่ำสุดในรอบกว่า 17 ปี ขณะที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับขึ้น 1.64 แสนอัตรา ช่วยเสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นให้เฟดเกี่ยวกับตลาดแรงงานสหรัฐ

ด้าน จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก และหนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) เปิดเผยว่า เฟดจะยังขึ้นดอกเบี้ยได้ 3-4 ครั้งในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น