เรื่องน่ารู้ในการประชุมสุดยอดสองเกาหลี
ประเด็นสำคัญที่ควรรู้ในการประชุมสุดยอดของสองผู้นำเกาหลีที่หมู่บ้านปันมุนจอม
ประเด็นสำคัญที่ควรรู้ในการประชุมสุดยอดของสองผู้นำเกาหลีที่หมู่บ้านปันมุนจอม
ในวันพรุ่งนี้ (27 เม.ย.) สายตาของทั่วทั้งโลกต่างมองมาที่หมู่บ้านปันมุนจอม ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งอยู่ระหว่างเส้นแบ่งของทั้งสองเกาหลี และเป็นสถานที่ซึ่งนายคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือมีกำหนดการเข้าพบปะหารือกับนายมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งการประชุมดังกล่าวนับเป็นการพบปะกันครั้งแรกของผู้นำทั้งสองในรอบกว่าทศวรรษ นับตั้งแต่การพบกันของอดีตประธานาธิบดีคิมแดจุง ของเกาหลีใต้ และนายคิมจองอิล ผู้นำเกาหลีเหนือ ครั้งแรกในปี 2000 และอีกครั้งในปี 2007 ซึ่งการพบปะกันของผู้นำทั้งสองเกาหลีในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สามนับตั้งแต่การสิ้นสุดสงครามเกาหลี
เวลาและสถานที่จัดประชุม
แน่นอนว่าการประชุมครั้งสำคัญนี้จะมีขึ้นในวันที่ 27 เมษายน ณ อาคารสันติภาพ (Peace House) ที่หมู่บ้านปันมุนจอมฝั่งเกาหลีใต้ในเวลา 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 07.30 น.ตามเวลาในไทย
โดยผู้นำทั้งสองจะใช้โต๊ะภายในห้องประชุมที่มีความยาว 2,018 มิลลิเมตร ภายในห้องตกแต่งด้วยรูปภาพภูเขาสำคัญของทั้งสองเกาหลี และที่ปลายของเก้าอี้มีรูปสลักแผนที่ของคาบสมุทรเกาหลีอยู่ ส่วนจำนวนของเก้าอี้นั้นทางทำเนียบชองวาแดของเกาหลีใต้ระบุว่าจัดไว้ฝั่งละ 7 ตัว แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
"ปันมุนจอม" สำคัญอย่างไร
นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเกาหลีช่วงปี 1953 สถานที่แห่งนี้ถือเป็นสถานที่การลงนามพักรบของทั้งสองเกาหลี อีกทั้งเป็นฉนวนกันพรมแดนระหว่าง 2 ประเทศ และถึงแม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นเขตปลอดทหาร (DMZ) หรือ Korean Demilitarized Zone แต่บริเวณตลอดทั้งพรมแดน ต่างเต็มไปด้วยทหารคอยลาดตระเวณอยู่ทั้งสองฝั่ง และไม่ได้มีสันติภาพตลอดเวลาโดยในปี 1976 ชาวเกาหลีเหนือใช้ขวานจามทหารสหรัฐฯ เสียชีวิต 2 นาย และล่าสุดเมื่อปี 2017 ผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือถูกยิง 5 ครั้ง ขณะที่หนีเข้ามาในเกาหลีใต้จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก
นัยยะการประชุม
แน่นอนการพบปะของทั้งสองจะมีขึ้นที่อาคารสันติภาพในฝั่งของเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นการเดินทางข้ามพรมแดนไปยังฝั่งเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกของนายคิมจองอึน โดยนอกจากนี้ยังมีคณะผู้แทนของเกาหลีเหนือเข้าร่วมด้วยอีก 9 คน โดยหนึ่งในจำนวนนี้จะมี คิมโยจอง น้องสาวของนายคิมของอึน และนายคิมยองนัม ผู้นำทางพิธีการของเกาหลีเหนือ ซึ่งทั้งสองเคยเดินทางเยือนเกาหลีใต้ในช่วงการแข่งขันโอลิมปิกพย็องซังที่ผ่านมา ขณะที่ทางฝั่งเกาหลีใต้จะมีรัฐมนตรีกลาโหม และรัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติ
"โดยเน้นในประเด็นการปลอดอาวุธนิวเคลียร์และการรักษาสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีเป็นสำคัญ" โดยแบ่งการประชุมออกเป็นสองช่วงคึอช่วงเช้าและบ่าย
ต้นไม้แห่งสันติภาพ?
หลังเสร็จสิ้นการประชุมในช่วงเช้า ผู้นำทั้งสองจะร่วมกันปลูกต้นสน บริเวณกึ่งกลางระหว่างเส้นแบ่งของทั้งสองชาติ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่นคงและสันติภาพ โดยดินที่ใช้ปลูกจะนำมาจากภูเขาแพกตู ฝั่งเกาหลีเหนือ และภูเขาฮัลลา ฝั่งเกาหลีใต้ รดด้วยน้ำจากแม่น้ำแทดง ที่ไหลผ่านกรุงเปียงยาง และน้ำจากแม่น้ำฮันแม่น้ำสำคัญฝั่งเกาหลีใต้ ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มประชุมต่อในรอบบ่าย หลังจากนั้นจะตามมาด้วยการลงนามข้อตกลงร่วมกัน
ผลลัพธ์การประชุม
หลังสิ้นสุดการประชุมในช่วงบ่าย ก็จะมีการลงนามข้อตกลงร่วมของทั้งสองเกาหลี โดยการลงนามนี้จะมีการประกาศให้ทราบในภายหลัง ซึ่งทั่วทั้งโลกต่างเฝ้าจับตามองว่าข้อตกลงนี้จะมีรายละเอียดในเรื่องใดบ้าง แต่เรามาย้อนดูว่าผลจากการพบปะกันในสองครั้งที่ผ่านมามีอะไรบ้าง
ในปี 2000 ทั้งสองเกาหลีลงนามปฏิญญาร่วมกันใน 8 ข้อ ซึ่งพอจะสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้ ทั้งสองเกาหลีร่วมมือกันโดยเคารพความแตกต่างในระบบการปกครอง, ทั้งสองเกาหลีต้องพัฒนาความร่วมมือในประวัติศาสตร์ภาษาการศึกษาเทคโนโลยีวัฒนธรรมกีฬาและสังคม, ทั้งสองเกาหลีผลักดันโครงการรวมญาติของครอบครัวที่ผลัดพรากกัน
ส่วนข้อตกร่วมกันในปี 2007 ทั้งสองร่วมส่งเสริมด้านเศรษฐกิจร่วมกันโดย มีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแกซองในฝั่งเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาเศรษฐกิจความร่วมมือกับประเทศเกาหลีใต้
ดินเนอร์เพื่อสันติภาพ
หลังประชุมเสร็จ ทั้งสองมีกำหนดการรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน โดยมีการเผยถึงนัยยะของอาหารที่ขึ้นโต๊ะเสิร์ฟให้ผู้นำทั้งสอง โดยหนึ่งในเมนูที่จะถูกนำขึ้นโต๊ะในครั้งนี้คือ เริสตี้ (rösti) ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายคิมจองอึน ที่เขาเคยใช้ชีวิตในวัยเด็กและเข้าเรียนหนังสือที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ปลาดอลลี่อบ ก็จะเป็นหนึ่งเมนูที่ขึ้นโต๊ะเสิร์ฟด้วยเช่นกัน โดยเมนูนี้จะเป็นตัวแทนชีวิตในวัยเด็กของนายมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งเกิดและเติบโตที่เมืองปูซาน เมืองท่าชายทะเลของเกาหลีใต้
บะหมี่เย็น" หรือ (naengmyeon) อาหารขึ้นชื่อของเปียงยาง โดยทางเกาหลีเหนือได้ส่งเชฟจากภัตตาคารดังในกรุงเปียงยางเพื่อมาปรุงเมนูนี้โดยเฉพาะ
ส่วนของหวานจะเป็น "มูสมะม่วง" ซึ่งเมนูของหวานนี้มีภาพแผนที่คาบสมุทรเกาหลี และหมู่เกาะที่เกาหลีใต้ยึดครองอยู่ประดับตกแต่งอยู่ด้วย จึงสร้างความไม่พอใจมากนักให้กับทางญี่ปุ่น เนื่องจากฝ่ายญี่ปุ่นก็อ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะเหล่านั้นเช่นกัน
ส่วนเครื่องดื่มนั้นจะเสิร์ฟ "ไวน์ อาซาเลีย" หรือไวน์จากดอกกุหลาบพันปี ซึ่งเป็นดอกไม้ขึ้นชื่อของเกาหลีใต้ นอกจากนั้นทางเกาหลีเหนือยังส่งสุรากลั่น 40 ดีกรีจากลูกแพร์ป่า ที่เรียกว่า "มุนเบจู" เป็นเครื่องดื่มตัวแทนของเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ การพบปะครั้งประวัติศาสตร์นอกจากที่ทั่วโลกที่จับตาการพบกันครั้งนี้แล้ว ยังต้องจับตามองในเดือนหน้าด้วยที่มีกำหนดว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จะพบกับนายคิมจองอิล ซึ่งการพบกันของทั้งสองผู้นำที่ถูกมองเป็นคู่ขัดแย้งมาโดยตลอดนั้น จะสร้างสันติภาพที่แท้จริงให้กับคาบสมุทรเกาหลีใต้หรือไม่?
ภาพ .. AFP, Reuters, AP