โพสต์อะไรได้บ้าง? เมื่อเฟซบุ๊กเปลี่ยนกฎมาตรฐานชุมชนใหม่

รู้จักมาตรฐานชุมชนใหม่ของเฟซบุ๊ก อะไรโพสต์ได้-ไม่ได้บ้าง

หลังจากที่เกิดกรณีการรั่วไหลข้อมูลของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจากบริษัทแคมบริดจ์อนาไลติก้า จนกลายเป็นเหตุให้นายมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กต้องขึ้นให้การต่อคณะกรรมาธิการของสภาคองเกรสเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว ถึงแม้ว่านายซัคเกอร์เบิร์กจะตอบคำถามได้ดีต่อคณะกรรมาธิการ

แต่นับตั้งแต่ที่โลกได้รู้จักกับเฟซบุ๊ก ได้เกิดกรณีที่นำไปสู่ข้อถกเถียงในหลายประเด็น ถึงเนื้อหาบนแพลตฟอร์มว่ามีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร โดยล่าสุดทางด้านเฟซบุ๊กได้ออกกฎมาตรฐานชุมชน (Community Standards) เป็นครั้งแรก เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ทราบว่ามีเนื้อหาแบบไหน และส่วนใดบ้างที่เฟซบุ๊กไม่อนุญาตให้โพสต์ และนี่คือบางส่วนของกฎมาตรฐานใหม่ที่เฟซบุ๊กไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มของตน..

ภาพโป๊เปลือย และภาพที่มีเนื้อหารุนแรง แน่นอนว่าเฟซบุ๊กห้ามอยู่แล้ว แต่ก็ยังคลุมเคลือว่าภาพไหนที่ถือว่าโป๊เปลือย หรือมีเนื้อหารุนแรงพอที่จะถูกแบนออกจากแพลตฟอร์ม เช่น ภาพโป๊เปลือยของเด็ก แม้แต่พ่อแม่จะเป็นผู้โพสต์เองก็ห้าม โดยเฟซบุ๊กให้เหตุผลว่า ภาพเหล่านั้นจะเป็นอันตรายต่อเด็กเมื่อพวกเขาโตขึ้นจากวัยทารก โดยเฉพาะในเด็กทารกเพศหญิงที่ไม่อนุญาตแม้แต่หัวนมของเด็กผู้หญิง

ภาพการประท้วงโพสต์ได้ แต่ห้ามภาพหัวนมของผู้หญิง แต่ภาพการผ่าตัดที่เกี่ยวกับเต้านมเพื่อเป็นกรณีศึกษา กับภาพการป้อนนมลูกจากหน้าอกผู้หญิงถือว่าไม่ห้าม

ภาพจากเหตุการณ์รุนแรง รวมถึงความรุนแรงที่กระทำต่อเหยื่อ ก็ห้ามเนื่องจากจัดอยู่ในประเภทของการคุกคาม

ห้ามโพสต์ซื้อหรือขายยาเสพติด ซึ่งแม้แต่กัญชาที่มีการเปิดเสรีในบางรัฐของสหรัฐ ก็ห้ามเช่นกัน รวมไปถึงการแสดงความคิดเห็นว่าสนใจจะหาซื้อก็ห้ามโพสต์

การปลุกระดมความรุนแรงทางการเมืองในรูปแบบต่างๆเช่น การปลุกระดมช่วงเลือกตั้ง หรือการปลุกระดมการก่อการร้าย รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวของแต่ละคนเช่น ข้อมูลในบัตรประชาชน พาสปอร์ต ข้อมูลด้านการแพทย์ รวมไปถึงคำพูดคุกคามผู้อื่น และการส่งเสริมการฆ่าตัวตาย

ส่วนภาพนู้ด ตามหลักเกณฑ์ของเฟซบุ๊กระบุว่าเปลือยได้ แต่ห้ามเห็นทวารหนักอย่างชัดเจน เว้นแต่ว่าจะผ่านการโฟโตช็อป หรือเซนเซอร์

อย่างไรก็ดี ข้อกำหนดเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานต่างทราบกันอยู่แล้วว่าไม่ควรโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์มสาธารณะ ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่ามาตรการใหม่นี้จะทำให้ข้อมูลในเฟซบุ๊ก "คลีน" ขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน

ที่มา : http://money.cnn.com/