เรือดำน้ำอังกฤษย่องเข้าใกล้ซีเรีย

นายกเมย์ สั่งเรือดำน้ำอังกฤษเข้าใกล้ซีเรีย สถานะพร้อมรบ ด้านผู้นำสหรัฐขู่พิจารณาทางเลือกโจมตี

สื่ออังกฤษรายงานว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษ ได้สั่งการให้เรือดำน้ำของกองทัพเรืออังกฤษเคลื่อนที่เข้าใกล้ชายฝั่งซีเรีย และอยู่ในพิสัยการโจมตี หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีรายงานว่ากองทัพซีเรียได้ใช้อาวุธเคมีโจมตีกลุ่มกบฏ และส่งผลให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจำนวนมาก

ล่าสุดมีรายงานว่านายกรัฐมนตรีเมย์ได้เรียกประชุมฉุกเฉินคณะรัฐมนตรี เพื่อเตรียมขอเสียงสนับสนุนเข้าร่วมกับสหรัฐ และฝรั่งเศสในการใช้ปฏิบัติการทางทหาร ต่อรัฐบาลนายบาชาห์ อัล อัดซาด ผู้นำซีเรีย โดยไม่สนคำเตือนและท่าทีของ ส.ส. หลายคนที่ระบุว่านางเมย์ควรขอให้สภาผู้แทนราษฏรมีมติโหวตการโจมตีเสียก่อน

อย่างไรก็ดีท่าทีของนายกเมย์ครั้งนี้มีขึ้นพร้อมๆกับที่ทางสหรัฐ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าเตรียมพิจารณาทางเลือกการโจมตีโดยใช้ขีปนาวุธชนิดใหม่ที่ทรงอานุภาพเข้าทำลายเป้าหมายในซีเรียเพื่อตอบโต้กับการที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมี 

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเรือพิฆาตติดขีปนาวุธโทมาฮอว์กของสหรัฐ 2 ลำ รวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Truman ดำน้ำและเครื่องบินรบต่างๆพร้อมรับคำสั่งโจมตีจากผู้นำสหรัฐทันที รวมไปถึงแหล่งข่าวจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีอังกฤษว่า ฐานทัพอังกฤษในไซปรัสได้รับคำสั่งพร้อมรบซึ่งคาดว่าจะมีปฏิบัติการภายในสัปดาห์หน้า

ส่วนประธานาธิบดีมาคร็อง ของฝรั่งเศส ก็กล่าวว่า ฝรั่งเศสพร้อมจะร่วมใช้มาตรการเพื่อลงโทษซีเรีย ถ้าสามารถยืนยันได้ว่า ประธานาธิบดีอัสซาดก้าวข้ามเส้นด้วยการใช้อาวุธสารเคมี อย่างไรก็ตาม ผู้นำฝรั่งเศสดูจะต้องการให้มีการโจมตีในวงจำกัด โดยมุ่งเป้าไปที่สถานที่ตั้งอาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียมากกว่า

ด้านโฆษกประจำตัวนายอัดซาดระบุว่า ซีเรียไม่หวั่นต่อคำขู่และท่าทีแข็งกร้าวของสหรัฐและชาติพันธมิตรแต่อย่างใด พร้อมทั้งย้ำว่าขณะนี้ซีเรียและชาติพันธมิตรกำลังหารือร่วมกันถึงมาตรการตอบโต้ ทั้งนี้แม้ว่าซีเรียจะไม่ระบุว่าชาติใดบ้างที่เป็นพันธมิตรกับซีเรียแต่ก็พอจะคาดได้ว่าเป็นรัสเซียกับอิหร่าน ซึ่งทั้งสองชาติล้วนเป็นคู่ขัดแย้งของทั้งอังกฤษและสหรัฐ

 ขณะที่ล่าสุดคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เปิดประชุมในวันนี้ แต่บรรดาชาติสมาชิกยังเสียงแตกและหาขอสรุปไม่ได้ ด้านนายอันโตนี กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นเตือนว่า ขณะนี้สถานการณ์ในซีเรียยิ่งบานปลายขึ้นเรื่อยๆ และใกล้หมดเวลาแล้วที่สถานการณ์จะควบคุมได้