แฉข้อมูลรั่วจากเฟซบุ๊ก ถูกไปใช้โหวตเบร็กซิตด้วย

อดีตพนักงานของเคมบริดจ์อนาติไลกาเผย ข้อมูลผู้ใช้งานที่รั่วจากเฟซบุ๊ก อาจถูกใช้ในการโกงผลโหวตเบร็กซิตด้วย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) นายคริสโตเฟอร์ ไวลีย์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยที่เคยทำงานในเคมบริดจ์ อนาติไลกา ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาข้อมูลด้านการเมือง ได้เข้าให้การต่อคณะกรรมการของสภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษ ต่อกรณีอื้อฉาวที่บริษัทดังกล่าวได้ขโมยข้อมูลผู้ใช้งานเฟซบุ๊กจำนวนกว่า 50 ล้านบัญชีนั้น อาจถูกนำไปใช้ในการโกงผลลงประชามติที่สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปหรือเบร็กซิต เมื่อปี 2016 ด้วย

นายไวลีย์เผยว่า เขาเชื่อว่าบริษัทเคมบริจด์ อะนาไลตก้าได้ใช้ข้อมูลดังกล่าวในการรณรงคโดยคัดเลือกจากบัญชีของผู้ที่มีสิทธิลงคะแนนเสียงในอังกฤษเพื่อโฆษณาโน้มน้าวให้มีมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนโหวตให้อังกฤษออกจากสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งในที่สุดผลการโหวตก็ออกมาด้วยคะแนนสูสีที่ร้อยละ 51.89%

"ถ้าเราอนุญาตให้โกงในกระบวนการประชาธิปไตยของเรา ... แล้วจะเกิดอะไรขึ้นในครั้งต่อไป? แล้วเวลาหลังจากนั้นล่ะ? นี่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย นี่เป็นการโกง" เขากล่าว

อย่างไรก็ดีนายไวลีย์ยังกล่าวว่า มันน่าเสียดายที่มีการโกงในการลงประชามติเบร็กซิต และการออกมาเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงผลการโหวตได้

ทั้งนี้การออกมาเปิดเผยของนายไวลีย์นี้ส่งผลให้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายมาร์กซัคเกอร์เบิร์กได้ออกมายอมรับถึงความผิดพลาดจากกรณีที่เฟซบุ๊กปล่อยให้ข้อมูลผู้ใช้งานราว 50 ล้านบัญชีที่ใช้แอปพลิเคชั่น "thisisyourdigitallife" แอบส่งต่อข้อมูลให้กับบริษัทเคมบริดจ์ อะนาไลติกา บริษัทด้านการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กับทีมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐและได้นำข้อมูลดังกล่าวไปจัดทำโฆษณาชวนเชื่อเพื่อเป็นประโยชน์แก่ทีมหาเสียงของนายทรัมป์จนเขาชนะการเลือกตั้ง