posttoday

นาซาประกาศอีก 117 ปีดาวเคราะห์น้อยจะพุ่งชนโลก

24 มีนาคม 2561

องค์การนาซาทำนายวันที่ 22 กันยายน ปี 2135 อาจเกิดเหตุดาวเคราะห์น้อยขนาดยักษ์พุ่งชนโลก

องค์การนาซาทำนายวันที่ 22 กันยายน ปี 2135 อาจเกิดเหตุดาวเคราะห์น้อยขนาดยักษ์พุ่งชนโลก

ซีเอ็นเอ็น - การทำนายอนาคตไม่ว่าจะบนหลักการพื้นฐานด้านความเชื่อ หรือตามหลักวิทยาศาสตร์ก็ยอมมีความคลาดเคลื่อนกันได้ เช่นเดียวกับล่าสุดที่ทางองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือนาซา ประกาศว่าในวันที่ 22 กันยายน ปี 2135 ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดี มีความเป็นไปได้น้อย ที่จะเกิดเหตุดาวเคราะห์น้อยซึ่งมีขนาดหนึ่งในสามไมล์ ที่มีชื่อว่า เบนมู (Bennu) จะพุ่งชนโลก ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง มันปลดปล่อยพลังงานเทียบเท่ากับระเบิดนิวเคลียร์ทั้งหมดที่มีอยู่ในคลังแสงของกองทัพสหรัฐเลยทีเดียว

แต่อย่าเพิ่งตกใจไป (ถึงแม้เราทุกคนจะมีอายุไม่ถึงก็ตาม) ทางนาซาได้เตรียมแผนรับมือในทางทฤษฎีไว้แล้ว โดยทางทีมวิศวกรได้ออกแบบยานพาหนะสำหรับลดความรุนแรงที่จะเกิดจากการพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อยไว้แล้ว (Hypervelocity Asteroid Mitigation Mission for Emergency Response vehicle หรือ HAMMER) ซึ่งมันจะเป็นยานอวกาศติดหัวรบนิวเคลียร์ไว้รับมือดาวเคราะห์น้อย เบนมู หรือวัตถุอื่นๆในอวกาศที่มีทิศทางมายังโลก โดยอย่างน้อยหวังว่าแรงจากระเบิดของนิวเคลียร์จะช่วยให้วัตถุเหล่านั้นเบี่ยงทิศทางออกไปจากโลก

 

 

นาซาประกาศอีก 117 ปีดาวเคราะห์น้อยจะพุ่งชนโลก ภาพจาก : Lawrence Livermore National Laboratory

 

 

 ทั้งนี้แนวคิดของโครงการ HAMMER ทางนาซาได้แนวคิดนี้มาจากภาพยนตร์เรื่อง Armageddon  และ Deep Impact ซึ่งถึงแม้ว่าจากการคำนวณของนาซาจะพบว่าโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยเบนมูจะพุ่งชนโลกมีน้อย แต่แผนการดังกล่าวถูกหยิบมาปัดฝุ่นอีกครั้งเนื่องจากที่ผ่านมามีดาวเคราะห์น้อยและอุกกาบาตน้อยใหญ่จำนวนมากเฉียดเข้าใกล้โลก ซึ่งก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าสักวันหนึ่งอุกกาบาตหรือดาวเคราะห์น้อยเหล่านั้นจะไม่พุ่งชนโลก

ยกตัวอย่างเช่น ในปี 2013 อุกกาบาตประมาณ 60 ฟุต (20 เมตร) ตกมายังโลกใกล้เขตเชเลียบินสค์ในรัสเซีย ซึ่งถึงแม้มันจะผ่านการเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศมาแล้ว จนกลายเป็นอุกกาบาตรขนาดเล็กแต่มันก็สร้างความเสียหายอย่างมาก โดยมันได้ปลดปล่อยพลังงานออกมาเทียบเท่ากับทีเอ็นทีขนาด 500 กิโลตันเลยทีเดียว และนี่ยังไม่พูดถึงอุกกาบาตที่ชนเข้ากับโลกบริเวณคาบสมุทรยูคาทานเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์


 

 นักวิทยาศาสตร์คาดว่าอุกกาบาตลักษณะที่ตกในรัสเซียนั้นเป็นเรื่องปกติที่จะมีอุกกาบาตรขนาดเล็กพุ่งชนโลกในทุกๆสองถึงสามปี ขณะที่อุกกาบาตขนาดที่เทียบเท่ากับลูกที่ตกบนคาบสมุทรยูคาทานจนเป็นเหตุให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์นั้นอาจเกิดขึ้นในทุกๆ 100 ล้านปีหรือมากกว่านั้น ขณะที่ดาวเคราะห์น้อยเบนมู ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าลูกที่ตกที่ยูคาทาน ยิ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นยากมากโอกาสเกิดขึ้นมีเพียงในทุก 1 แสนปีเท่าน้น

ทั้งนี้ดาวเคราะห์น้อยเบนมูจะชนโลกในวันที่ 22 กันยายน ปี 2135  อาจจะไม่ แต่หากถามว่าโลกจะถูกพุ่งชนอีกครั้งหรือไม่ คำตอบคือมี แต่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร

 ที่มา : https://edition.cnn.com/