'เจ้าแห่งรัสเซีย' คำทำนายกลายเป็นจริง

ย้อนคำทำนาย "บาบา วันก้า" นอสตราดามุสจากบอลข่าน ทายแม่นอนาคตจะมี "วลาดิเมียร์ลอร์ดแห่งรัสเซีย"

และแล้วก็เป็นไปดังคาด เมื่อ วลาดิมีร์ ปูติน ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซีย ด้วยคะแนนเสียงถล่มทลายถึง 76% ครองตำแหน่งเป็นสมัยที่ 4 และจะดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 6 ปี ซึ่งคะแนนเสียงที่ได้ยังสูงกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2012 ที่ปูตินได้ไป 64% เสียอีก จนทีมหาเสียงของปูตินยังอดกล่าวไม่ได้ว่าเป็น “ชัยชนะที่เหลือเชื่อ”

 แน่นอนว่าการที่ปูตินกุมอำนาจอย่างต่อเนื่องและด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ย่อมทำให้ชาติที่เป็นคู่กรณีเกิดความวิตกไม่ได้ว่า ปูตินจะยิ่งแสดงท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้น และมีบทวิเคราะห์ออกมามากมายเพื่อทำนายท่าทีของปูตินต่อสถานการณ์โลก ส่วนใหญ่มองว่ารัสเซียจะเผชิญหน้ากับยุโรปตะวันตกอย่างดุเดือด เพราะรัสเซียเองเห็นว่าชาติตะวันตกตั้งแง่กับรัสเซียมากเกินไป และใช้มาตรการกีดกันต่างๆ นานา อีกทั้งยังเห็นว่าประเทศต้องการผู้นำที่แข็งแกร่ง เชิดชูค่านิยมความเป็นรัสเซีย จึงหันมาหนุนหลังผู้นำสายเหยี่ยวอย่างปูติน

ด้วยความหวาดกลัวกำปั้นเหล็กของผู้นำรัสเซีย สื่อบางสายในโลกตะวันตกถึงกับขุดคำทำนายเก่าๆ ออกมาเพื่อชี้ชวนว่า ปูตินคือบุคคลผู้ทรงอำนาจที่จะสร้างความผวาดผวาให้กับโลกในอีกไม่ช้าไม่นาน

เช่น สำนักข่าว Mirror ของอังกฤษ (ซึ่งเป็นประเทศคู่กรณีล่าสุดของรัสเซียในเหตุสังหารสายลับ) ขุดคำทำนายของหมอดูตาบอดชาวบัลแกเรียผู้ล่วงลับที่ชื่อ บาบา วันก้า ซึ่งเสียชีวิตเมื่อปี 1996

บาบา วันก้า

 แต่ก่อนที่แม่หมอจะจากโลกนี้ไปได้ทิ้งคำทำนายเอาไว้ ปรากฏว่ากลายเป็นความจริงหลายเรื่อง เช่น เหตุวินาศกรรม 9/11 ภัยพิบัติ การก่อตัวของขบวนการรัฐอิสลาม แม้แต่กรณี Brexit จนได้รับฉายาว่า “นอสตราดามุสจากบอลข่าน”

มีเรื่องหนึ่งที่วันก้าทำนายเอาไว้ คือการผงาดขึ้นมาของบุคคลหนึ่งที่ชื่อ “วลาดิมีร์” จากรัสเซีย ในบทสัมภาษณ์ที่ให้ไว้เมื่อปี 1979 นางบอกเอาไว้ว่า “ทุกสิ่งจะล่มสลายราวกับแผ่นน้ำแข็งละลาย มีเพียงหนึ่งเดียวที่ไร้ผู้ต่อต้าน คือความเกริกไกรของวลาดิมีร์ ความเกริกไกรของรัสเซีย” 

นอกจากนี้ ยังบอกว่า “ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งรัสเซียได้ ทุกคนจะถูกรัสเซียกวาดต้อนไป ไม่เพียงรัสเซียจะรอดพ้น แต่ยังจะกลายเป็นเจ้าโลก” และก่อนที่จะเสียชีวิตได้ไม่นาน วันก้ายังทำนายถึงรัสเซียอีกครั้งว่า จะกลายเป็นมหาอำนาจเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่มีการใช้อาวุธนิวเคลียร์ประหัตประหารกัน

 ที่มา : หนังสือพิมพ์M2F