posttoday

"สีจิ้นผิง" นั่งประธานาธิบดีจีนสมัย2

18 มีนาคม 2561

สีจิ้นผิงนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีจีนสมัยที่ 2 เลือกมือขวาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี

สีจิ้นผิงนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีจีนสมัยที่ 2 เลือกมือขวาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี 

ที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (เอ็นพีซี) ลงมติเอกฉันท์ที่ 2,970 เสียงให้ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีนดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันอย่างเป็นทางการ พร้อมลงคะแนนรับรองให้ หวังฉีซาน มือขวาของสีจิ้นผิงและแกนนำปราบคอร์รัปชั่นในจีน ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี โดยหวังฉีซานคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งใน ด้านนโยบายต่างประเทศ โดยเฉพาะการบรรเทาความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ ขณะที่จีนพยายามหลีกเลี่ยงสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ

ทั้งนี้ หวังได้รับการขนานนามว่าเป็น “มือปราบเพลิง” เนื่องจากความสามารถในการแก้ไขปัญหาหลายด้าน ทั้งล่าสุดในการลงโทษนักการเมืองคอร์รัปชั่นกว่า 1.5 ล้านรายตลอด 5 ปีที่ผ่านมาของการเป็นผู้นำหน่วยงานปราบทุจริต รวมถึงการพาจีนผ่านวิกฤตการเงินเอเชียช่วงทศวรรษ 1990 และการจัดการปัญหาโรคซาร์สระบาดเมื่อปี 2003 นอกจากนี้ หวังยังเป็นผู้นำการเจรจาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสหรัฐและจีนช่วงสมัยอดีตประธานาธิบดี หูจิ่นเทา และอดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา แห่งสหรัฐด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า แม้หวังจะมีประสบการณ์ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองอันโดดเด่น แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะสามารถคลี่คลายความไม่ลงรอยระหว่างจีนและสหรัฐได้หรือไม่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการเมืองสหรัฐและท่าทีแข็งกร้าวจากรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

ขณะเดียวกัน หัวป๋อ นักวิเคราะห์การเมืองจีนเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า การเลือกหวังเป็นรองประธานาธิบดียังแสดงถึงการกระชับอำนาจยิ่งขึ้นของสีจิ้นผิง ด้วยการเลือกคนสนิทขึ้นมาดำรงตำแหน่ง เนื่องจากหวังที่อายุ 69 ปีอยู่ในเกณฑ์เกษียณแล้วและมีอายุมากเกินไปสำหรับตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการแหวกธรรมเนียมปฏิบัติช่วงที่ผ่านมา

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐกำลังตึงเครียดยิ่งขึ้น โดยล่าสุด ทรัมป์ลงนามกฎหมายกระชับความสัมพันธ์กับไต้หวัน ชื่อ ไต้หวัน ทราเวล แอ็ก ซึ่งเป็นการเพิ่มการเดินทางเยี่ยมเยือนระหว่างกันของเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ ส่งผลให้สถานทูตจีนในสหรัฐออกแถลงการณ์คัดค้านอย่างรุนแรงทันที พร้อมเตือนว่าการกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติอย่างรุนแรง และเรียกร้องให้สหรัฐยังคงยึดมั่นนโยบายจีนเดียว ที่ระบุว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนต่อไป

ภาพ เอเอฟพี