posttoday

จับตา! 'ทรัมป์-คิม' นัดพบกันที่ไหน

09 มีนาคม 2561

ประเมินทุกความเป็นไปได้ ผู้นำคิมจองอึน - ปธน.ทรัมป์ หลังตอบรับเจรจากันตัวต่อตัว แล้วทั้งสองจะพบกันที่ไหน

ประเมินทุกความเป็นไปได้ ผู้นำคิมจองอึน - ปธน.ทรัมป์ หลังตอบรับเจรจากันตัวต่อตัว แล้วทั้งสองจะพบกันที่ไหน 

ยังไม่ทันไรก็พบปัญหาเสียแล้ว หลังจากที่นายชุง อึย ยอง ผู้แทนจากเกาหลีใต้แถลงที่ทำเนียบขาวว่า นายทรัมป์ตอบรับนายคิมจองอึน ถึงการพบกันของผู้นำทั้งสอง ซึ่งนายชุงกล่าวว่าผู้นำทั้งสองจะพบกันในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดการ การพบกันของสองผู้นำในครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ด้านการทูตของทั้งสหรัฐ เกาหลีใต้ และเกาหลีเหนือเลยทีเดียว

 

จับตา! 'ทรัมป์-คิม' นัดพบกันที่ไหน

 

 

 อย่างไรก็ดีมีคำถามตามมาว่าแล้วผู้นำทั้งสองจะพบกันที่ไหน ซึ่งดูเหมือนว่าหมู่บ้านปันมุนจอมที่ตั้งระหว่างเส้นแบ่งเขตปลอดทหารของทั้งสองเกาหลีจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

 

เขตปลอดทหารที่ไม่ปลอดทหาร

เขตปลอดทหารนี้ตั้งขึ้นโดยสหประชาชาติมาตั้งแต่ปี 1953 ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงโซลไปทางเหนือราว 50 กิโลเมตร โดยหมู่บ้านปันมุนจอมเป็นสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้งสำหรับทั้งสองเกาหลี นับตั้งแต่ที่ทั้งสองลงนามสงบศึกเมือปี 1953

 

 

จับตา! 'ทรัมป์-คิม' นัดพบกันที่ไหน

 

 

และในเดือนเมษายนนี้ สถานที่แห่งนี้จะถูกใช้เป็นที่นัดพบกันของนายมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และนายคิมจองอึน ซึ่งสำหรับหมู่บ้านปันมุนจอมนี้

ซึ่งตลอดปีที่ผ่านมาได้มีนักการเมือง และบุคคนสำคัญหลายคนเดินทางมาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ อีกทั้งนายคิมเคยไปเยือนที่นั้นด้วยตนเอง แต่สำหรับนายทรัมป์ ก็เคยมีแผนการเดินทางเยือนปันมุนจอมเช่นกันแต่ยกเลิกแผนการเดินทางในนาทีสุดท้าย ระหว่างการเยือนเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุผลที่ว่าสภาพอากาศไม่เป็นใจส่งผลให้เฮลิคอปเตอร์ที่จะพานายทรัมป์ไปนั้นไม่สามารถเดินทางได้

นายลีโอนิก เปตรอฟ จากสถาบัน ANU College of Asia and the Pacific กล่าวว่าเขาคิดว่าหมู่บ้านแห่งนี้ไม่ค่อยเหมาะสมที่จะเลือกใช้เป็นสถานที่พบกันของทั้งสองผู้นำ

"มันเรียกว่าเขตปลอดทหาร แต่มันกลับเต็มไปด้วยทหารตลอดชายแดน" เขากล่าว อีกทั้งการรักษาความปลอดภัยของคิมและทรัมป์ไม่สามารถรับประกันได้ที่นั่น

"คุณจะไม่มีทางรู้เลยหากทหารของแต่ละฝ่ายเกิดปะทะกัน หรือมีการวางระเบิดบนพื้นดิน" อีกทั้งเมื่อเดือน พฤศจิกายนที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ทหารชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์วิ่งหนีดงกระสุนผ่านชายแดนมายังฝั่งใต้

  

ทางเลือกที่จีน

นายเปตรอฟกล่าวว่า จีนดูเหมือนจะเป็นตัวกลางที่น่าสนใจในการพบกันของสองผู้นำ "หากไม่มีแรงกดดันจากจีน เกาหลีเหนือคงไม่หันเข้าสู่โต๊ะเจรจา"

 

 

จับตา! 'ทรัมป์-คิม' นัดพบกันที่ไหน

 

 นอกจากนั้นเขายังกล่าวอีกว่า ไม่แน่อาจจะเป็นที่รัสเซีย แต่ทว่าประธานาธิบดีปูตินคงไม่คิดอยากจะต้อนรับนายทรัมป์ช่วงนี้ เนื่องจากใกล้เลือกตั้งทั่วไปในรัสเซียที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 มีนาคมนี้ และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนายปูตินเพิ่งจะแถลงผลงานประจำปีโดยระบุถึงขีปนาวุธรูปแบบใหม่

สำหรับทางเลือกจีนนั้นก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน เนื่องจากเกาหลีเหนือมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเกาหลีเหนือในหลายด้านโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งนายทรัมป์เพิ่งประสบความสำเร็จจากการเยือนจีนเมื่อปีที่แล้วซึ่งก็ได้รับการตอนรับอย่างดีจากนายสีจิ้งผิง

 

ประเทศที่เป็นกลาง

นอกจากตัวเลือกของหมู่บ้านปันมุนจอมซึ่งน่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุดแล้ว ประเทศที่เป็นกลางอย่าง "สวิสเซอร์แลนด์" ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากนายคิมเคยศึกษาอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ในช่วงวัยเด็ก อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ใช้ลงนามและเจรจาทางการทูตที่สำคัญๆหลายครั้ง

 

ไม่มีทางเป็นสหรัฐฯ

หรือคิมจะมาสหรัฐฯ ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน ซึ่งหากเขามาจะต้องพบกับการประท้วงอย่างหนัก หรือจะเป็นที่นิวยอร์ก นายคิมกับทรัมป์จะไปพบกันที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็น?

 

 

จับตา! 'ทรัมป์-คิม' นัดพบกันที่ไหน

 

 

หรือที่กรุงเปียงยาง?

ตัวเลือกเปียงยางก็มีความเป็นไปได้ ซึ่งหากมองจากประวัติศาสตร์ที่ประธานาธิบดีบิล คลินตัน ซึ่งเคยเดินทางเยือนเกาหลีเหนือ และพบกับนายคิมจองอิล ซึ่งท่าที่ของเกาหลีเหนือในครั้งนั้นเริ่มต้นได้ดีมาก จนกระทั้งจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช เขามาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่นายทรัมป์จะไปเกาหลีเหนือ
  

การคว่ำบาตรยังคงมีต่อไป

ภายหลังที่นายชุง อึย ยอง ผู้แทนจากเกาหลีใต้แถลงที่ทำเนียบขาวไม่นาน นายทรัมป์ได้ทวีตข้อความหลังตอบรับพบปะกับนายคิมจองอึนระบุว่า "นายคิมจองอึนต้องการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับคณะผู้แทนของเกาหลีใต้ ซึ่งไม่ใช่การยุติโดยถาวร แต่เป็นที่แน่นอนว่าเกาหลีเหนือจะระงับการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ช่วงเจรจานี้ นับเป็นความก้าวหน้าทีดีแต่ว่าสหรัฐยังคงดำเนินมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อไปจะกว่าจะมีการตกลงร่วมกัน ซึ่งขณะนี้กำลังเตรียมการวางแผนการพบกัน"

ซึ่งนับตั้งแต่ที่นายทรัมป์เข้ารับต่ำแหน่งผู้นำสหรัฐ คณะบริหารของเขาได้ใช้มาตรคว่ำบาตรที่หนักและรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยหวังว่าจะสร้างแรงกดดันให้เกาหลีเหนือ และกับรัฐบาลจีนเพื่อโดดเดียวเกาหลีเหนือมากขึ้น