posttoday

สื่อนอกแฉ! ผู้นำโสมเหนือใช้พาสปอร์ตบราซิลขอวีซ่าเข้ายุโรป

28 กุมภาพันธ์ 2561

เผยผู้นำคิมใช้หนังสือเดินทางของประเทศบราซิล ใช้ชื่อปลอมว่า "โจเซฟ"

เผยผู้นำคิมใช้หนังสือเดินทางของประเทศบราซิล ใช้ชื่อปลอมว่า "โจเซฟ"

รอยเตอร์ -  รายงานว่าผู้นำตระกูลคิมทั้งสองคนคือนาย คิมจองอึน และ อดีตผู้นำที่ล่วงลับนายคิมจองอิล ทั้งสองเคยใช้หนังสือเดินทางของประเทศบราซิลเพื่อใช้ยื่นวีซ่าเดินทางในประเทศตะวันตกช่วงปี 1990 รอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคงของยุโรป

รายงานได้ตีพิมพ์ภาพสำเนาหนังสือเดินทางของทั้งสองผู้นำเกาหลีเหนือซึ่งไม่เคยได้รับการเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ซึ่งข้อมูลนี้มาจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของยุโรปที่ไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อ

แหล่งข่าวกล่าวว่า "สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาในการเดินทางและชี้ให้เห็นถึงความพยายามของครอบครัวคิมที่จะสร้างเส้นทางหลบหนีที่เป็นไปได้"อย่างไรก็ดีด้านสถารทูตเกาหลีเหนือประจำบราซิลปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้

 

 

สื่อนอกแฉ! ผู้นำโสมเหนือใช้พาสปอร์ตบราซิลขอวีซ่าเข้ายุโรป สำเนาพาสปอร์ของนายคิมจองอึน

 

 ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของบราซิลกำลังดำเนินการสอบสวนถึงเรื่องดังกล่าวอยู่ ด้านแหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาลบราซิลระบุว่า หนังสือเดินทางดังกล่าวเป็นเอกสารที่ออกโดยราชการอย่างถูกต้อง

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของยุโรประบุว่านายคิมจองอึน ใช้ชื่อในหนังสือเดินทางว่า Josef Pwag และ Ijong Tchoi ซึ่งที่ผ่านมาพบหลักฐานการยื่นของวีซ่าประเทศในยุโรปอย่างน้อย 2 ประเทศ อีกทั้งหนังสือเดินทางดังกล่าวอาจเคยถูกใช้เดินทางไปยังญี่ปุ่นและฮ่องกงด้วย

สอดคล้องกับรายงานของหนังสือพิมพ์ โยมิฮุริ ชินบุน ของญี่ปุ่นที่เคยรายงานในปี 2011 ว่า นายคิมจองอึน เคยเดินทางมาญี่ปุ่นในช่วงวัยเด็กในปี 1991 โดยใช้พาสปอร์ตสัญชาติบราซิล

 

 

สื่อนอกแฉ! ผู้นำโสมเหนือใช้พาสปอร์ตบราซิลขอวีซ่าเข้ายุโรป สำเนาพาสปอร์ของนายคิมจองอิล

 

 

 โดยในพาสปอร์ตของนายคิมจองอึนระบุว่าชื่อ Josef Pwag  เกิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ.1983 มีบ้านเกิดที่เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล สำหรับประวัตินายคิมจองอึนเป็นที่ทราบกันดีว่าเขาจบการศึกษาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์

รายงานยังระบุอีกว่าสำหรับนายคิมจองอิล ผู้พ่อ ก็ใช้วิธีเดียวกันนี้ในการเดินทางในต่างประเทศ ซึ่งปรากฎหลักฐานเป็นพาสปอร์ตของนายคิมจองอิลเคยรับการประทับตราที่สถานทูตบราซิลในกรุงปราก เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 1996

สำหรับภาพสำเนาของพาสปอร์ตทั้งสองนั้น เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงปฏิเสธถึงแหล่งที่มาเพื่อความปลอดภัย