posttoday

"กราดยิง"ฝันร้ายซ้ำๆของคนอเมริกัน

18 กุมภาพันธ์ 2561

เหตุกราดยิงครั้งล่าสุดเป็น 1 ใน 10 เหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของสหรัฐและจุดประเด็นการควบคุมอาวุธปืนขึ้นมาอีกครั้ง

เหตุกราดยิงครั้งล่าสุดเป็น 1 ใน 10 เหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของสหรัฐและจุดประเด็นการควบคุมอาวุธปืนขึ้นมาอีกครั้ง

ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย นิโคลัส ครูซ หนุ่มสหรัฐวัย 19 ปี ควงปืนไรเฟิลก่อเหตุกราดยิงในโรงเรียนมัธยมมาร์จอรี สโตนแมน ดักลาส ไอสกูล ในเมืองพาร์คแลนด์ รัฐฟลอริดาของสหรัฐ ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าที่ถูกไล่ออกเพราะผิดวินัย จนมีทั้งนักเรียนและอาจารย์เสียชีวิต 17 ราย บาดเจ็บอีก 50 ราย เจ้าหน้าที่คาดว่ามือปืนยิงปืนขึ้นฟ้าก่อนเพื่อดึงความสนใจให้ทุกคนออกมาจากห้องรียนก่อนลงมืออย่างอุกอาจ จากนั้นได้พยายามปะปนออกมากับกลุ่มนักเรียนที่กำลังหาทางเอาตัวรอด แต่ไม่สำเร็จกระทั่งถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด

หลังเกิดเหตุ มาร์โค รูบิโอ วุฒิสมาชิกรัฐฟลอริดา ทวีตข้อความระบุว่า การลงมือครั้งนี้ตั้งใจให้เกิดการสูญเสียชีวิตมากที่สุด อย่างไรก็ดี การถกเรื่องกฎหมายควบคุมอาวุธปืนในตอนนี้ยังเร็วเกินไป เช่นเดียวกับ ริก สกอตต์ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ที่ทวีตแสดงความเสียใจ และเผยว่ายังมีเวลาอีกมากที่จะพูดคุยเรื่องปืน ทวีตดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้ชาวอเมริกันที่เรียกร้องให้คุมเข้มการพกพาอาวุธปืน โดยหลายความคิดเห็นในโลกโซเชียลเรียกร้องให้ผู้ว่าการลาออก เนื่องจากไม่กล้าเรียกร้องแทนประชาชน

จากสถิติของ Everytown For Gun Safety ซึ่งรณรงค์สนับสนุนการควบคุมอาวุธปืนและต่อต้านการใช้อาวุธปืนก่อความรุนแรง พบว่า ปีนี้มีการใช้อาวุธปืนในโรงเรียนแล้ว 18 ครั้ง รวมครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในเมืองที่ขึ้นชื่อว่าปลอดภัยที่สุดในรัฐฟลอริดา แต่หากนับเฉพาะเหตุการณ์ที่มีทั้งการบาดเจ็บและเสียชีวิต ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 ในรอบปี

เหตุกราดยิงครั้งนี้ซึ่งเป็น 1 ใน 10 เหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของสหรัฐ ได้จุดประเด็นการควบคุมอาวุธปืนขึ้นมาอีกครั้ง เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์รุนแรงทั้งในโรงเรียนประถมแซนดี้ฮุคในรัฐคอนเนตทิคัตเมื่อปี 2012 หรือในเหตุกราดยิงกลางเทศกาลดนตรีใกล้กับ รร.มัณฑะเลย์ เบย์ในลาสเวกัสเมื่อปีที่แล้ว ที่มีผู้เสียชีวิต 58 ราย แต่สหรัฐยังมีอุปสรรคอีกหลายประการที่ทำให้ไม่สามารถออกกฎหมายควบคุมอาวุธปืนได้

"กราดยิง"ฝันร้ายซ้ำๆของคนอเมริกัน

อุปสรรคใหญ่คือ สมาคมปืนยาวแห่งชาติสหรัฐ (NRA) ซึ่งเป็นกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดที่ต่อต้านกฎหมายเพิ่มข้อบังคับในการซื้ออาวุธปืน กลุ่มนี้มีงบประมาณเหลือเฟือในการทุ่มล็อบบี้นักการเมืองที่สนับสนุนแนวคิดของกลุ่มและจัดโครงการรณรงค์ต่างๆ นอกจากนี้ ความพยายามผ่านร่างกฎหมายควบคุมปืนในสภาแทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากสภาถูกพรรครีพับลิกันซึ่งหนุนการพกอาวุธครองเสียงส่วนใหญ่มาตั้งแต่ปี 2011

อีกทั้งชาวอเมริกันยังมองว่าการพกปืนเพื่อป้องกันตัวเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน เนื่องจากรัฐธรรมนูญของสหรัฐกำหนดให้พลเมืองที่ไม่มีอาการผิดปกติทางจิต ไม่มีประวัติอาชญากรรม และอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถเป็นเจ้าของปืนได้หากผ่านการตรวจสอบประวัติและลงทะเบียนอย่างถูกต้อง หากรัฐบาลออกกฎหมายควบคุม ประชาชนบางส่วนจึงเกรงว่าตัวเองจะถูกพรากสิทธิ์นี้ไป กฎหมายจึงเป็นหมัน ขณะที่ความรุนแรงยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภาพ เอเอฟพี

ที่มา www.m2fnews.com