จับ 8 กระแสโลก 2018 ระบบ "เศรษฐกิจใหม่" พุ่งแรง

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

ปี 2018 ที่จะถึงนี้คาดว่าจะเป็นอีกปีที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์ใหม่ๆ ชวนตื่นเต้นโดยสำหรับภาคธุรกิจนั้น แนวโน้มความเคลื่อนไหว 4 อย่างกำลังจะเกิดขึ้นในปีหน้านี้เช่นกัน

แชริ่ง อีโคโนมีโตต่อ

เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา แชริ่ง อีโคโนมี หรือเศรษฐกิจแบ่งปันก็เติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทวิจัยตลาด อีมาร์เก็ตเทอร์ จากสหรัฐ คาดการณ์ว่า ชาวสหรัฐที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มใช้บริการธุรกิจแชริ่งมากขึ้นไปอยู่ที่ 66.3 ล้านคนในปี 2018 เพิ่มขึ้นจาก 56.5 ล้านคน เช่นเดียวกับในจีน โดยศูนย์ข้อมูลรัฐบาลจีนคาดการณ์ว่าแชริ่ง อีโคโนมี จะขยายตัวราว 40% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้

สำหรับธุรกิจไรด์-แชริ่งนั้น คงต้องจับตาดูว่า “อูเบอร์” ยักษ์ไรด์-แชริ่งใหญ่จากสหรัฐ จะสามารถกอบกู้ชื่อเสียงของบริษัทได้หรือไม่ หลังเผชิญข่าวฉาวมาตลอดทั้งปี ขณะที่ “ตีตี้ ชูซิง” ไรด์-แชริ่งชื่อดังของจีนก็เตรียมสยายปีกขยายบริการในเม็กซิโกในปีหน้า เพิ่มเติมจาก 400 เมืองทั่วเอเชียในปัจจุบัน ด้านธุรกิจแชริ่งที่พักอย่าง “แอร์บีเอ็นบี” ก็เตรียมจะออกหุ้นเสนอขายครั้งแรก (ไอพีโอ) ในปีหน้านี้ หลังประสบความสำเร็จในการบุกตลาดจีนเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ด้วยการรีแบรนด์ชื่อเป็นอ้ายปี่อิ๋ง (Aibiying) โดยบริษัทเปิดเผยกับซีเอ็นบีซีว่า ยอดจองที่พักในจีนเพิ่มขึ้นถึง 180% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบรายปี

อย่างไรก็ดี การที่รัฐบาลหลายประเทศต้องเริ่มคุมเข้มธุรกิจแชริ่ง เนื่องจากมองว่าธุรกิจดังกล่าวมา “สกัด” การดำเนินงานของธุรกิจดั้งเดิมอาจเป็นความเสี่ยงบั่นทอนการเติบโต เช่น กรณีอูเบอร์ที่ศาลยุติธรรมสหภาพยุโรปตัดสินว่าเป็นบริษัทขนส่ง ไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยี ทำให้อูเบอร์ต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลเข้มงวดแบบบริษัทขนส่ง

 

เอไอผงาดภาคธุรกิจ

ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) กำลังจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรม โดย สตาติสตา เว็บรวบรวมและจัดทำสถิติในด้านต่างๆ ระบุว่า มูลค่าตลาดเอไอคาดว่าจะปรับตัวไปอยู่ที่ประมาณ 4,065 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.32 แสนล้านบาท) ในปี 2018 ปรับขึ้นเกือบเท่าตัวจาก 2,420 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.8 หมื่นล้านบาท) ในปีนี้

แม้ในปีที่ผ่านมา ภาคธุรกิจจะเริ่มนำเอไอมาใช้งานบ้างแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็ยังจำกัดอยู่แค่ไม่กี่ด้าน เช่น บริการสุขภาพบริการลูกค้า หรือการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ในปีหน้านั้น การ์ทเนอร์ บริษัทวิจัยด้านการตลาดชื่อดังมองว่า เอไอจะเข้ามาเป็นรากฐานสำคัญของการทำธุรกิจ โดยหลายบริษัท เช่น อเมซอน เริ่มทดลองนำเอไอมาออกแบบสินค้า ขณะที่เอไอยังจะมีบทบาทมากขึ้นในการช่วยทำการตลาดออนไลน์ด้วยเช่นกัน จากความสามารถในการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้น

ดิจิทัล เพย์เมนต์มาแรง

ในปี 2017 นับเป็นปีที่ ดิจิทัล เพย์เมนต์ หรือการชำระเงินค่าสินค้าและบริการต่างๆ ออนไลน์ขยายตัวสดใส และแนวโน้มที่ว่าจะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2018 โดยเฉพาะการชำระเงินออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนคาดว่าจะเติบโตโดดเด่นที่สุด โดยเฉพาะในจีน ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ โอปุส คอนซัลติ้ง ในสหรัฐ คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 19% จากปีที่ผ่านมา ไปอยู่ที่ 9.3 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 30 ล้านล้านบาท) ในปีหน้า

สำหรับแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ดิจิทัล เพย์เมนต์เติบโตต่อเนื่องนั้น คงหนีไม่พ้น “บล็อกเชน” ซึ่งในเริ่มแรกนั้นใช้แค่ในการทำธุรกรรมถ่ายโอนเงินดิจิทัล แต่เนื่องจากบล็อกเชนมีจุดเด่นที่การเป็นระบบไร้ตัวกลาง มีความปลอดภัยสูง และสามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมได้ จึงทำให้ภาคธนาคารหันมาวิจัยและพัฒนาระบบดังกล่าว เพื่อปรับใช้กับระบบของตัวธนาคารเอง โดยโอปุสระบุว่า ในปี 2018 ธนาคาร 25% และสถาบันการเงิน 20% จะเริ่มการใช้บล็อกเชนสำหรับการทำธุรกรรมเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ

เผยโฉมรถไร้คนขับ-อีวี

ในยุคที่รัฐบาลทั่วโลกต่างเร่งเกียร์สู่การลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลนั้น รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (อีวี) และรถยนต์ไร้คนขับกำลังจะเผยโฉมออกมามากยิ่งขึ้นในปีหน้า โดยค่ายรถชั้นนำหลายแห่ง เช่น โตโยต้า นิสสัน ออดี้ หรือฮุนได ต่างมีแผนเปิดตัวอีวีรุ่นใหม่ในปี 2018 นี้

ขณะที่ความคืบหน้าของยานยนต์ไร้คนขับกำลังปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะยานยนต์ไร้คนขับสำหรับการขนส่งมวลชน ซึ่งในเดือน มี.ค. 2018 นี้ นิสสันจะเริ่มทดลองบริการแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองโยโกฮามาของญี่ปุ่น ขณะที่โตโยต้าและฮอนด้าต่างเปิดเผยว่ากำลังพัฒนารถไร้คนขับด้วยเช่นกัน

เกาะกระแสโลกปีหน้า

นอกจากเทรนด์ในภาคธุรกิจแล้ว ความเคลื่อนไหวโลกอีก 4 อย่างก็น่าจับตาไม่แพ้กันในปีหน้า

 

การเมืองโลกยังระอุต่อ

เกาหลีเหนือมีแนวโน้มยังเป็นภัยคุกคามความมั่นคงโลกต่อในปี 2018 แม้ยูเอ็นเอสซีคว่ำบาตรไปเมื่อเดือนธ.ค. แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะหยุดเกาหลีเหนือได้หรือไม่ เมื่อพิจารณาจากมาตรการครั้งที่ผ่านๆ มา ซึ่งนอกจะไม่ได้ผลแล้ว ยังเป็นการเติมเชื้อไฟให้รัฐบาลเปียงยางกระทำการยั่วยุยิ่งกว่าเดิม ข้ามฟากไปที่สถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลาง ที่กลับมาทวีความตึงเครียดขึ้นอีก หลังทรัมป์แหวกขนบ เป็นผู้นำโลกชาติเดียวที่ประกาศให้เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล สร้างความไม่พอใจให้ทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศมุสลิม

อาเซียนเสี่ยงเลือกตั้ง

ขณะที่ฝั่งอาเซียนเองยังต้องเผชิญความเสี่ยงทางการเมืองเช่นกัน จากการที่หลายประเทศจะจัดการเลือกตั้งในปีหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นไทย กัมพูชา และมาเลเซีย โดยมาเลเซียคาดว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปก่อนวันที่ 24 ส.ค. ซึ่งมีการคาดหมายกันว่า นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก จะครองตำแหน่งผู้นำประเทศต่ออีกสมัย หลังเผชิญข่าวอื้อฉาวมาอย่างต่อกรณีกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซีย (วันเอ็มดีบี)  

หวั่นปกป้องการค้าลาม

ความหวาดหวั่นเกี่ยวกับนโยบายปกป้องการค้ากำลังจะกลับมาอีกครั้งในปี 2018 โดยเฉพาะจากฝั่งสหรัฐ หลังรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผ่านกฎหมายปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่สุดรอบกว่า 30 ปี ซึ่งเอื้อต่อภาคเอกชนสหรัฐอย่างมากจนสร้างความวิตกให้กับบรรดาประเทศยุโรป รวมถึงจีน เนื่องจากแผนภาษีดังกล่าวจะบั่นทอนความสามารถในการแข่งขัน ขณะที่ปัญหาการขาดดุลการค้าอย่างหนักของสหรัฐกับหลายประเทศ โดยเฉพาะกับจีน ทำให้หลายฝ่ายคาดว่ารัฐบาลทรัมป์ อาจออกมาตรการต่างๆ ออกมาอีก เพื่อเพิ่มแรงกดดันทางการค้า

เงินดิจิทัล : จะรุ่งหรือร่วง

หลายฝ่ายคาดบิตคอยน์จะร่วงลงในปีหน้า หลังราคาพุ่งทะยานมาอย่างต่อเนื่อง จนแบงก์ชาติและนักวิเคราะห์ต่างส่งเสียงเตือนภาวะฟองสบู่ ขณะเดียวกัน สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่รองรับโค้ดโปรแกรม "สัญญาอัจฉริยะ" (Smart Contract) จะเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น จนคาดว่าอาจมาแทนที่บิตคอยน์ได้ในอนาคต เนื่องจากยังใช้แลกเปลี่ยนหุ้น หรือสินทรัพย์อื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน ทำให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านอื่นๆ ได้