ฟิลิปปินส์เจอพายุถล่มหนักสุดในปีนี้ดับกว่า200

พายุเทมบินถล่มฟิลิปปินส์หนักสุดในปีนี้ ตาย-สูญหายเกือบ 400 ด้านไฟแคลิฟอร์เนียลุกลามหนักสุดในประวัติศาสตร์รัฐ

เอเอฟพีและรอยเตอร์สรายงานว่า พายุโซนร้อนเทมบินที่เข้าถล่มเกาะมินดาเนาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. ด้วยความเร็ว 125 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อยกว่า 200 ราย และสูญหายอีกอย่างน้อย 159 ราย ขณะที่ฝนตกหนักจนทำให้เกิดน้ำท่วมขังและดินถล่มในบริเวณดังกล่าว จนมีผู้อพยพออกจากที่พักอาศัยกว่า 7 หมื่นราย และเกิดขึ้นเพียงไม่ถึงสัปดาห์หลังพายุดีเปรสชันไคตั๊กเข้าถล่มตอนกลางของประเทศ

รายงานระบุว่า เทมบินส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบริเวณตอนเหนือของเกาะ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 135 ราย และสูญหายอีก 72 ราย โดยหมู่บ้านดาลามาที่อยู่ทางตอนเหนือของเกาะ เป็นหนึ่งในบริเวณที่ได้รับผลกระทบสูงสุด มีบ้านเรือนจำนวน 103 ครัวเรือนเสียหายจากน้ำท่วม

ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์มักจะเผชิญพายุไต้ฝุ่นราว 20 ลูกในแต่ละปี ขณะที่พายุดีเปรสชันไคตั๊กลูกล่าสุดที่พัดถล่มตอนกลางของประเทศในวันที่ 17 ธ.ค. ได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 54 ราย และสูญหายอีก 24 ราย

ด้านบีบีซีรายงานว่า ไฟป่าโทมัสที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมาบริเวณตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ลุกลามไปถึง 273,400 เอเคอร์ แซงหน้าไฟป่าซีดาร์เมื่อปี 2003 ที่ลุกลามไปกว่า 273,246 เอเคอร์ ได้ขึ้นมาเป็นเหตุไฟป่าที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ ขณะที่รัฐบาลระบุว่า สามารถควบคุมไฟป่าดังกล่าวได้ 65% แล้วเมื่อวานนี้

ทั้งนี้ รัฐแคลิฟอร์เนียเผชิญปัญหาไฟป่าจำนวนมากและรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่ปี 2000 โดยนักวิทยาศาสตร์หลายรายวิเคราะห์สาเหตุว่า เป็นผลมาจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นต่อเนื่องและการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนกลางป่า

ด้านนิวยอร์กไทมส์ รายงานอ้างสมาคมวิเคราะห์สภาพอากาศของสหรัฐ (เอเอ็มเอส) ว่า นักวิจัยทั่วโลกได้ค้นพบว่าปรากฏการณ์สภาพอากาศแปรปรวนกว่า 21 จาก 27 ครั้ง อาทิ อุณหภูมิโลกที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ไฟป่าในอเมริกาเหนือเมื่อปี 2016 เป็นผลมาจากปรากฏการณ์โลกร้อน ขณะที่ก่อนหน้านี้กรมอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐเองก็เพิ่งออกมาเตือนว่า โลกอาจเผชิญปรากฏการณ์ลานินญาที่ยาวนานถึงเดือน ก.พ. 

ภาพ เอเอฟพี