posttoday

เบื้องลึก"เพนตากอน"หน่วยลับจับเอเลี่ยน

18 ธันวาคม 2560

เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์เผย "เพนตากอน" ได้รับงบลับหลายล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับโครงการค้นหาที่มาที่ไปของยูเอฟโอ

เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์เผย "เพนตากอน" ได้รับงบลับหลายล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับโครงการค้นหาที่มาที่ไปของยูเอฟโอ

หนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ กำลังท็อปฟอร์มสุดๆ หลังจากสร้างชื่อเสียงด้วยการแฉพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศของบิ๊กบอสในวงการฮอลลีวูด ล่าสุดหนังสือพิมพ์ชั้นแนวหน้าของสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่เคยลับสุดยอดว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือเพนตากอน ได้รับงบประมาณลับหลายล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับโครงการค้นหาที่มาที่ไปของวัตถุลึกลับจากอวกาศ หรือยูเอฟโอ (UFO)

สำหรับตัวตั้งตัวตีที่ผลักดันให้เพนตากอนได้รับงบประมาณลับสำหรับตามล่ายูเอเอฟโอ คืออดีตวุฒิสมาชิก แฮร์รี รีด แห่งพรรคเดโมแครต ซึ่งเคยเป็นผู้นำวิปพรรคเสียงข้างมากในสภาคองเกรสช่วงเวลานั้น จนกระทั่งเพนตากอนสามารถจัดตั้งโครงการลับขึ้นมาได้ ในชื่อโครงการระบุตัวตนของอากาศยานล้ำหน้าที่อาจเป็นภัยคุกคาม (The Advanced Aviation Threat Identification Program) เพื่อทำการติดตามการปรากฏตัวของวัตถุลึกลับจากอวกาศโดยเริ่มตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา

โครงการนี้ได้รับงบประมาณราว 22 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการทำการศึกษาปรากฏการณ์ที่ผิดปกติรูปแบบต่างๆ ผ่านคลิปวิดีโอ คลิปเสียง ที่บันทึกได้ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของนักบินในกองทัพ รวมถึงทำการสัมภาษณ์บุคคลที่อ้างว่าเคยพบเห็นวัตถุประหลาดจากฟากฟ้า

เบื้องลึก"เพนตากอน"หน่วยลับจับเอเลี่ยน

ที่น่าสนใจก็คือ รีดเป็นอดีตวุฒิสมาชิกจากรัฐเนวาดา ซึ่งเป็นที่ตั้งของพื้นที่ 51 (Area 51) พื้นที่หวงห้ามสุดยอดของกองทัพอากาศสหรัฐ และเป็นที่ร่ำลือกันในหมู่นักทฤษฎีสมคบคิดว่า อาจเป็นที่ตั้งของหน่วยทดลองด้านยูเอฟโอ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีผู้ใดสามารถยืนยันข้อมูลนี้ได้

ทั้งนี้ โฆษกของพนตากอนได้ยืนยันกับสำนักข่าวชั้นนำ เช่น ซีเอ็นเอ็น ว่า ได้ยุติโครงการดังกล่าวแล้วในปี 2012 เนื่องจากทางกระทรวงกลาโหมเห็นว่ามีเรื่องอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์สมควรจะได้รับงบประมาณไปใช้มากกว่า

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของหนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ระบุว่า บางหน่วยงานของโครงการนี้ยังคงดำเนินการอยู่ เช่น การจัดเจ้าหน้าที่สืบสวนหากมีการนำหลักฐานเกี่ยวกับ UFO มานำเสนอ เพียงแต่เจ้าหน้าที่สืบสวนดังกล่าวยังทำหน้าที่ประจำด้านอื่นๆ ในหน่วยงานตามปกติ

อดีตผู้อำนวยการของโครงการเผยว่า ทำงานประสานกับเจ้าหน้าที่ของกองทัพเรือและสำนักข่าวกรองกลาง หรือซีไอเอ โดยมีสำนักงานที่ตึกเพนตากอน จนกระทั่งเขาลาออกเมื่อปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้ามารับตำแหน่งแทน แต่เขาไม่ได้เปิดเผยชื่อของบุคคลดังกล่าว