posttoday

คาดราคาน้ำมันโลกปีหน้าพุ่งแรง

06 ธันวาคม 2560

โกลด์แมนแซคส์คาดน้ำมันโลกขาขึ้นยาวต่อเนื่องในปีหน้า เหตุโอเปกลดผลิตยาว

โกลด์แมนแซคส์คาดน้ำมันโลกขาขึ้นยาวต่อเนื่องในปีหน้า เหตุโอเปกลดผลิตยาว

ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ออกรายงานปรับขึ้นคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 2018 โดยราคาน้ำมันดิบเบรนต์จะปรับตัวขึ้นจาก 58 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เป็น 62 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับเพิ่มราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสจาก 55 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็น 57.50 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยให้เหตุผลว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก (โอเปก) และกลุ่มพันธมิตรนอกโอเปกที่นำโดยรัสเซีย จะปฏิบัติตามข้อตกลงลดการผลิตน้ำมันอย่างเคร่งครัด หลังทางกลุ่มมีมติยืดเวลาลดการผลิตลง 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปจนถึงสิ้นปี 2018

“แม้ข้อตกลงล่าสุดจะเหลือที่ให้สมาชิกถอนตัวได้ก่อนหมดสัญญา แต่เรายังมั่นใจว่าทุกประเทศจะปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด และมีความเป็นไปได้น้อยที่สมาชิกจะถอนตัวจากข้อตกลง” ธนาคารระบุ พร้อมหั่นคาดการณ์การผลิตของโอเปกและรัสเซียในปีหน้าลง 3.5 แสนบาร์เรล/วัน ไปอยู่ที่ 44.3 ล้านบาร์เรล/วัน

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ ยังปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปี 2019-2020 แม้ว่าจะเป็นระดับราคาที่ลดลงมากจากในปี 2018 ก็ตาม โดยเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนต์จาก 58 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็น 59.50 ดอลลาร์/บาร์เรล และจาก 53 ดอลลาร์/บาร์เรล เป็น 54.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ในปี 2020

ด้านธนาคารเจพีมอร์แกน เชส ออกคาดการณ์ราคาทองคำโลกปี 2018 ว่า ราคาทองคำโดยเฉลี่ยในปีหน้าจะอยู่ที่ราว 1,295 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากปัจจุบันที่ราคาทองคำงวดส่งมอบทันทีอยู่ที่ 1,275.24 ดอลลาร์/ออนซ์ ระหว่างการซื้อขายเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. เนื่องจากปัจจัยสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของสหรัฐปรับตัวขึ้นในไตรมาสแรก และไตรมาส 2

อย่างไรก็ดี คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังที่ราว 1,340 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากภาวะสังคมผู้สูงอายุทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเสี่ยงต่อการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด และอาจกดดันให้เฟดต้องชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในครึ่งปีหลัง ซึ่งเดิมเจพีมอร์แกนคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 4 ครั้ง ในปี 2018 ต่อเนื่องจากการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้

ภาพ เอเอฟพี