นายกเลบานอนหายตัวลึกลับหลังเข้าเฝ้ากษัตริย์ซาอุฯ

ซาอุฯ-เลบานอนขัดแย้งหนัก หลังผู้นำเลบานอนหายตัวไปในซาอุดิอาระเบีย พร้อมทั้งประกาศให้พลเมืองออกจากเลบานอนทันที ท่ามกลางข่าวลือประกาศสงคราม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า - รัฐบาลซาอุดิอาระเบียได้แจ้งเตือนพลเมืองของตนในเลบานอนให้เดินทางออกนอกประเทศ หลังความตึงเครียดสองประเทศทวีความรุนแรงขึ้น นับตั้งแต่ที่นายกรัฐมนตรี ซาอัด ฮารีรี ของเลบานอนลาออกจากตำแหน่งนายกตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมาและเดินทางไปเข้าเฝ้ากษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย โดยให้เหตุผลว่าเขากลัวความไม่ปลอดภัยในชีวิต ขณะเดียวกันมีบางแหล่งข่าวรายงานว่า นายฮารีรี ถูกกักตัวอยู่ที่ซาอุดิอาระเบีย แม้ว่าจะมีแถลงการณ์ตามมาภายหลังว่านายฮารีรีไม่ได้ถูกกักตัวที่ซาอุดิอาระเบียแต่อย่างใด แต่ก็ไม่มีการระบุถึงสถานที่ว่านายฮารีรีอยู่ที่ใดในขณะนี้

ด้านสถานนีโทรทัศน์ของซาอุดิอาระเบียได้เผยแพร่แถลงการณ์ของนายฮารีรีเพียงไม่นานหลังจากเขาประกาศลาออก โดยเนื้อหาได้กล่าวโจมตีรัฐบาลอิหร่านว่าเป็นผู้ที่สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ ที่มีอิทธิพลอย่างสูงในเลบานอน

 ขณะที่สมาชิกพรรคฟิวเจอร์มูฟเมนต์ซึ่งเป็นพรรคต้นสังกัดของนายฮารีรี ได้เรียกร้องให้นายฮารีรีกลับประเทศ พร้อมทั้งกล่าวโจมตีรัฐบาลซาอุดิอาระเบียว่าเป็นผู้กดดันให้นายฮารีรีลาออกจากตำแหน่ง โดยการประกาศลาออกจากตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีฮาริรีสร้างความวิตกกังวลอย่างยิ่งในเลบานอนโดยเฉพาะกลุ่มการเมืองในประเทศที่ฝ่ายที่ฝักใฝ่ซาอุดีอาระเบีย นำโดยนายฮารีรีซึ่งเป็นชาวนิกายสุหนี่ กับฝ่ายฝักใฝ่อิหร่าน นำโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งความเห็นต่างนี้อาจกลายเป็นเหตุรุนแรง

นอกจากนี้ รัฐบาลคูเวต บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังได้ออกประกาศเตือนให้พลเมืองออกจากเลบานอนเช่นเดียวกัน นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่า กลุ่มประเทศอาหรับอาจมีแผนโจมตีเลบานอนในเร็วๆนี้ ที่อาจะใชัเลบานอนเป็นสงครามตัวแทนของสองมหาอำนาจชาติอาหรับรพหว่างซาอุดิอาระเบีย กับ อิหร่าน

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสซึ่งอยู่ระหว่างเยือนประเทศแถบตะวันออกกลาง ได้เดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียอย่างไม่มีกำหนดล่วงหน้าโดยเขากล่าวว่าจะหารือปัญหาเลบานอนและเยเมนกับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฏราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย และกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่าเขาได้ติดต่อพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการกับนายฮารีรีแล้ว

อย่างไรก็ดีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตุว่า การลาออกของนายกเลบานอนมีขึ้นในช่วงเดียวกันกับที่ซาอุดิอาระเบียประกาศปราบปรามการทุจริตไปหลายคนรวมทั้งเจ้าชาย เชื้อพระวงศ์ และนักธุรกิจสำคัญของประเทศ