ทรัมป์ไปทำอะไรที่จีน?

ประเด็นที่ต้องจับตามองในระหว่างการเยือนจีนของผู้นำสหรัฐและสตรีหมายเลขหนึ่ง

ในที่สุด โดนัลด์ ทรัมป์ ก็เดินทางถึงประเทศจีนเป็นครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐ หลังเริ่มต้นช่วงแรกของการเยือนเอเชียโดยแวะที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ก่อน ซึ่งปรากฏว่าทรัมป์เตือนเกาหลีเหนือมาตลอดทางว่าจะใช้มาตรการที่แข็งกร้าวตอบโต้ท่าทียั่วยุ ทั้งยังเปรยว่าให้ญี่ปุ่นสามารถยิงขีปนาวุธของโสมแดงหากอีกฝ่ายยิงข้ามประเทศมาอีกครั้ง และประกาศกลางสภานิติบัญญัติของเกาหลีใต้ว่าเกาหลีเหนืออย่าพยายามลองดี แม้แต่ก่อนที่จะเดินทางถึงจีนก็ยังกล่าวกดดันเจ้าบ้านว่า "ประเทศที่รับผิดชอบต้องร่วมมือยุติการสนับสนุนเกาหลีเหนือ" และหลังจากเสร็จสิ้นการเยือนจีนแล้ว ทรัมป์จะมุ่งหน้าต่อไปยังฟิลิปปินส์ และจะร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออก (EAS)

ไฮไลท์สำหรับการทัวร์เอเชียในครั้งนี้อยู่ที่จีน และไม่ใช่แต่ปัญหาเกาหลีเหนือเท่านั้นที่จะอยู่บนโต๊ะประชุม

1.จีนได้เปรียบดุลการค้า
การได้เปรียบดุลการค้าเป็นเรื่องปกติ แต่การที่จีนได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐกลับมองว่าไม่ใช่เรื่องปกติ โดยกล่าวหามาหลายรัฐบาลแล้วว่าจีนบงการค่าเงินให้อ่อนกว่าความเป็นจริง ทำให้ดุลการค้าไม่ตรงกับความเป็นจริง หากจีนไม่ยอมปรับค่าเงินก็ต้องยอมรับข้อตกลงการค้าที่เอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายสหรัฐมากขึ้น ซึ่งในการเยือนครั้งนี้ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ได้มีการลงนามการค้าระหว่างจีนกับบริษัทชั้นแนวหน้าของสหรัฐ เช่น General Electric Co. และ Caterpillar Inc รวมถึง Honeywell International Inc มีมูลค่าถึง 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการซื้อเครื่องจักรกล พลังงาน และสินค้าเกษตรเป็นหลัก โดยเฉพาะสินค้าเกษตรเป็นตัวชูโรงที่ทรัมป์ผลักดันมาตลอดทริปเอเชีย

2.คว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
แม้แต่การแก้ปัญหาเกาหลีเหนือ ทรัมป์ก็ยังใช้แนวทางทางการค้า โดยจะกดดันให้จีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของเกาหลีเหนือยุติการค้ากับอีกฝ่ายอย่างจริงจังตามมติคว่ำบาตรของสหประชาชาติ โดยเฉพาะในมาตรการตรวจสอบด้านศุลกากรที่เข้มงวด เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐย้ำว่า หากจีนไม่จริงจังกับการใช้มาตรการดังกล่าว ปัญหาเกาหลีเหนือก็จะไม่มีวันแก้ไขได้ด้วยวิธีสันติ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายจีนมองว่าได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรทางการค้ากับเกาหลีเหนือไปแล้วไม่น้อย และลึกๆ แล้วจีนไม่ปรารถนาที่จะบ่อนทำลายเกาหลีเหนือจนพังพินาศ เพราะเท่ากับเป็นการทำลายรัฐกันชนของตัวเอง

3.ทะเลจีนใต้
ตามมารยาทแล้วสหรัฐไม่ใช่คู่กรณีของจีนโดยตรงในการแก้ปัญหาการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนในทะเลจีนใต้ระหว่างจีนกับประชาชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดว่าทรัมป์จะไม่เน้นเจรจาปัญหาดังกล่าว เพราะความจำเป็นเร่งด่วนที่สุดของทรัมป์ในเวลานี้คือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ กระตุ้นการค้าขาย และกำราบเกาหลีเหนือ เพื่อกระตุ้นคะแนนนิยมที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ประธานาธิบดี โดริโก ดูเตร์เต้ แห่งฟิลิปปินส์ เพิ่งสั่งยุติการก่อสร้างบนสันดอนทรายที่เป็นปัญหากับจีน หลังจากฝ่ายจีนประท้วง ท่าทีบ่งชี้ว่าปัญหาทะเลจีนใต้สามารถแก้ไขกันเองได้โดยที่ทรัมป์ไม่ต้องยื่นมือเข้ามา

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าจับตาว่าทรัมป์อาจจะมีเซอร์ไพรส์กลางที่ประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออกที่กรุงมะนิลา เพราะก่อนหน้าที่เจ้าตัวประกาศว่าจะเยือนฟิลิปปินส์เท่านั้นโดยไม่ร่วมการประชุม แต่เปลี่ยนใจกะทันหันและประกาศว่าจะร่วมประชุมจนจบงาน

ที่มา : M2FNews