"ทรัมป์" ขู่อย่าประเมินสหรัฐต่ำ

ทรัมป์ประเดิมเยือนญี่ปุ่น ขู่กร้าวถึงเกาหลีเหนืออย่าประเมินสหรัฐต่ำ เล็งขึ้นบัญชีประเทศหนุนก่อการร้าย

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวขณะเยี่ยมเยียนทหารสหรัฐที่ฐานทัพอากาศโยโกตะ ในระหว่างการเดินทางเยือน 5 ชาติเอเชีย ซึ่งเริ่มที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกวานนี้ว่า ไม่ควรมีระบอบหรือผู้นำเผด็จการรายใดที่ประเมินความสามารถในการรับมือของสหรัฐต่ำเกินไป และว่าอาจตัดสินใจเพิ่มรายชื่อประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายในเร็วๆ นี้ 

ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันอาจดำเนินมาตรการรับมือปัญหาเกาหลีเหนือที่ต่างออกไปจากเดิม หลังจากวิธีที่ใช้มาหลายปีก่อนหน้านี้อ่อนปวกเปียกเกินไป นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า มีแผนจะพบหารือกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เพื่อให้รัสเซียเข้ามามีส่วนช่วยแก้ปัญหาเกาหลีเหนือด้วย     

“เราต้องการแก้ปัญหาซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ทั้งสำหรับเราและต่อทั้งโลก ที่ผ่านมาตลอด 25 ปีนั้นอ่อนปวกเปียกเหลือเกิน ดังนั้นเรากำลังจะแก้ปัญหาด้วยวิธีใหม่ที่ต่างออกไป” ทรัมป์ กล่าว แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี เอพีรายงานว่านักวิเคราะห์บางรายกังวลว่าการเยือนเอเชียครั้งนี้อาจกระตุ้นให้เกาหลีเหนือยิ่งดำเนินการยั่วยุมากขึ้นกว่าเดิม เช่น การทดสอบขีปนาวุธรอบใหม่

ขณะเดียวกัน การเดินทางครั้งนี้จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากชาติพันธมิตรของสหรัฐในเอเชีย หลังจากที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศนโยบายอเมริกามาก่อน ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าขั้วสมดุลอำนาจในภูมิภาคนี้จะแกว่งไปทางจีนมากขึ้น ขณะที่สหรัฐกำลังกดดันหลายประเทศคู่ค้าที่ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐด้วย ท่ามกลางความพยายามเดินหน้าข้อตกลงการค้าแบบทวิภาคีหรือรื้อข้อตกลงกันใหม่ หลังจากที่สหรัฐถอนตัวจากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี)

นิวยอร์กไทมส์ ระบุว่า ทรัมป์ยังได้เรียกร้องให้มีการสร้างภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง ซึ่งถูกมองว่าเป็นการดำเนินความสัมพันธ์กับเอเชียครั้งใหม่ที่ผนึกความสัมพันธ์กับ 3 ชาติพันธมิตรใหญ่ คือ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอินเดีย เพื่อขวางการขยายอำนาจของจีนในภูมิภาคนี้ โดยแนวคิดดังกล่าวเป็นการเสนอของญี่ปุ่นและได้รับการยอมรับจาก เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เมื่อไม่กี่วันก่อนการเยือนของทรัมป์

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐได้เดินทางเยือนญี่ปุ่นเป็นชาติแรก ก่อนจะตามมาด้วยเกาหลีใต้ จีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ในการเดินทางเยือน 5 ประเทศเอเชีย เป็นเวลา 12 วัน ซึ่งนับเป็นการเยือนเอเชียที่นานที่สุดในรอบ 25 ปีของประวัติศาสตร์ผู้นำสหรัฐ นับตั้งแต่ประธานาธิบดี จอร์จ บุช เมื่อปี 1992 โดยเป็นส่วนหนึ่งของทริปการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออกที่กรุงมะนิลา ระหว่างวันที่ 12-13 พ.ย. 

ภาพ เอเอฟพี