posttoday

"สีจิ้นผิง" ชูนโยบาย "สังคมนิยมใหม่" นำจีนสู่อนาคต

18 ตุลาคม 2560

สีจิ้นผิง จ่อเป็นผู้นำจีนสมัยที่สอง กล่าวย้ำอุดมการณ์สังคมนิยมของจีนกำลัง “เข้าสู่ยุคใหม่” และจีนจะเป็นตัวของตัวเอง รวมถึงไม่อดทนต่อความพยายามแบ่งแยกดินแดน

สีจิ้นผิง จ่อเป็นผู้นำจีนสมัยที่สอง กล่าวย้ำอุดมการณ์สังคมนิยมของจีนกำลัง “เข้าสู่ยุคใหม่” และจีนจะเป็นตัวของตัวเอง รวมถึงไม่อดทนต่อความพยายามแบ่งแยกดินแดน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า - ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ผู้นำจีนได้กล่าวเปิดประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 19 ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่งโดยยกย่องอุดมการณ์สังคมนิยมว่ากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ และยกระดับจีนเข้าสู่เวทีโลก โดยยุทธศาสตร์สังคมนิยมสมัยใหม่  จะเป็นรูปเป็นร่างภายในปี 2593 และกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า นโยบายการเมืองและต่างประเทศของจีนไม่เลียนแบบใคร 

นอกจากนี้สียังกล่าวอีกว่า จีนและโลกอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงและซับซ้อน จีนยังคงอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของโอกาสเชิงยุทธศาสตร์ในการพัฒนา อนาคตสดใสแต่ความท้าทายก็หนักหนา

ขณะเดียวกัน ผู้นำจีนยังกล่าวย้ำถึงหลักการจีนเดียว (One China Policy) ว่ารัฐบาลปักกิ่งไม่เห็นด้วยกับขบวนการเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดน พร้อมทั้งย้ำว่า เขตปกครองตนเองทิเบต เขตบริหารพิเศษมาเก๊าและฮ่องกง รวมถึงไต้หวั่นซึ่งจีนถือสถานะเป็นมณฑลโพ้นทะเลของจีน จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของจีน

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า กิซโมโด เว็บไซต์การออกแบบ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ของสหรัฐเผยว่า ทางการจีนได้บล็อก"วีแชท" แอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมของจีนก่อนการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 19

โดยนายแมทธิว เบรนแนน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องวีแชทกล่าวว่า ผู้ใช้งานวีแชทได้จำกัดการเปลี่ยนรูปภาพประจำตัว ชื่อเล่น และข้อความบอกคุณลักษณะตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคมไปจนถึงสิ้นเดือน เป็นการจำกัดอย่างกะทันหันที่ทำให้ผู้ใช้วีแชทไม่สามารถใช้วิธีง่าย ๆ ในการประท้วงหรือแสดงจุดยืนร่วมกับนักเคลื่อนไหวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากนี้เทคครันช์ยังพบว่า วีแชทได้บล็อกการสนทนาเรื่องที่มีความอ่อนไหวทางการเมืองและไม่แจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่าข้อความถูกเซ็นเซอร์มาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว หนังสือพิมพ์ฮ่องกงฟรีเพรสส์รายงานว่า วีแชทเพิ่งจ้างเจ้าหน้าที่ใหม่ 1,000 คนมาช่วยคัดกรองเนื้อหาอนาจาร ผิดกฎหมายและเป็นอันตราย ขณะที่บล็อกขนาดเล็กของจีนอย่างเว่ยปั๋วก็จะเริ่มเซ็นเซอร์ข้อความของผู้ใช้ในเดือนนี้เช่นกัน

สำหรับ การประชุมใหญ่พรรคที่มีขึ้นทุก 5 ปี ครั้งนี้มีตัวแทนพรรคจากมณฑลและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เข้าร่วมกว่า 2,000 คน เพื่อหารือและเห็นชอบรายงานและข้อเสนอแนะของประธานาธิบดี ขณะเดียวกันจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการกลางชุดใหม่ ซึ่งจะเป็นผู้เลือกคณะกรมการเมืองและคณะกรรมการถาวรในคณะกรมการเมืองวันรุ่งขึ้นหลังปิดการประชุมในวันที่ 24 ตุลาคม คาดว่าพันธมิตรของประธานาธิบดีสีจะครองที่นั่งในคณะกรรมการถาวรซึ่งเป็นผู้ทรงอำนาจที่สุดของประเทศ และจะเป็นคณะผู้นำประเทศรุ่นถัดไปหลังเขาพ้นตำแหน่งในปี 2565