ชาวเคิร์ดในอิรักลงประชามติแยกประเทศ

ชาวอิรักเชื้อสายเคิร์ดทางเหนือของประเทศออกมาลงประชุมมติเพื่อแสดงเจตนารมณ์ต้องการแยกประเทศ ขณะที่รัฐบาลอิรักและตุรกีขู่ว่าจะใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซง

การลงประชามติสอบถามความคิดเห็นชาวอิรักเชื้อสายเคิร์ดว่าต้องการแยกประเทศออกจากอิรักหรือไม่จัดขึ้นที่เขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานในอิรักที่ประกอบด้วย 3 จังหวัดทางภาคเหนือ ได้แก่ อาร์บีล, ซุไลมานียะห์ และดะฮูก โดยมีคูหาให้ลงประชามติทั้งหมด 12,072 แห่ง สำหรับผู้มีสิทธิลงประชามติกว่า 5.3 ล้านคน

การลงประชามติครั้งนี้ไม่มีผลผูกมัดทางกฎหมาย โดยผู้ริเริ่มคือมาสซูด บาร์ซานี ผู้นำชาวเคิร์ด โดยจะประกาศผลการลงประชามติภายใน 24 ชั่วโมงหลังปิดคูหาลงประชามติ คาดผลที่ออกมาจะมีผู้เห็นด้วยกับการแยกประเทศอย่างล้นหลาม แต่ผู้นำชาวเคิร์ดเผยว่ายังไม่มีแผนประกาศเอกราชของชาวเคิร์ดในทันที

ในเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานมีการประดับถนน, รถยนต์ และหน้าบ้านด้วยธงของชาวเคิร์ด และผู้ออกมาลงประชามติหลายคนใส่ชุดตามประเพณีของชาวเคิร์ด หรือห้อยธงชาวเคิร์ดไว้ที่คอ ด้านนายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัลบาดี แห่งอิรักกล่าวว่าการลงประชามติของชาวเคิร์ดเป็นการตัดสินใจแต่ฝ่ายเดียว ซึ่งจะส่งผลกระทบด้านความมั่นคงทั้งต่ออิรักและในภูมิภาคนี้ และขัดรัฐธรรมนูญ และเป็นภัยต่อความสงบของพลเรือน ขณะที่สหรัฐ และชาติตะวันตกกังวลว่าการลงประชามติแยกประเทศของชาวเคิร์ดในอิรักจะขัดขวางการสู้รบเพื่อปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลามในอิรัก ซึ่งอาศัยกองกำลังร่วมของรัฐบาลอิรักกับกองกำลังชาวเคิร์ด

 ด้านเลขาธิการยูเอ็น นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการลงประชามติแยกตัวเป็นอิสระของชาวเคิร์ดในอิรัก โดยโฆษกเลขาธิการ UN กล่าวว่า "ท่านเลขาธิการสหประชาชาติเคารพในอำนาจอธิปไตย, บูรณภาพแห่งดินแดน และความเป็นเอกภาพของอิรัก และเห็นว่าปัญหาที่ยังค้างคาอยู่ระหว่างรัฐบาลกลางและรัฐบาลของภูมิภาคเคอร์ดิสถานนั้น ควรได้รับการแก้ไขผ่านการเจรจาอย่างเป็นระบบและประนีประนอม"

ทั้งนี้ ภูมิภาคเคอร์ดิสถานทางตอนเหนือของอิรัก มีพรมแดนติดกับประเทศตุรกีและอิหร่าน โดยมีการแบ่งเขตปกครองออกเป็น 4 เขตใหญ่ ได้แก่ เมืองดูฮอก เออร์บิล สุไลมาลานียา และอาลับยา ขณะที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเคิร์ด แต่ก็มีชาวอิรักที่มีเชื้อสายอาหรับและเติร์กรวมอยู่ด้วยเช่นกัน ส่วนพื้นที่ใกล้เคียงอยู่ในการควบคุมดูแลของกองกำลังเปชเมอร์กา ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธไอเอส แต่ขณะเดียวกันก็มีนักรบชาวเคิร์ดจำนวนไม่น้อยที่ต่อสู้กับกองทัพรัฐบาลอิรัก ตุรกี และอิหร่าน ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลทั้ง 3 ประเทศคัดค้านการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชของชาวเคิร์ดในครั้งนี้ ขณะที่ศาลสูงของอิรักตัดสินก่อนหน้านี้ว่าการลงประชามติเป็นการละเมิดกฎหมายเช่นกัน