posttoday

สหรัฐขาดดุลงบหนัก มากสุดตั้งแต่ปี2008

21 กันยายน 2560

สหรัฐขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากสุดในรอบเกือบ 10 ปี หนี้สาธารณะทะลุ 20 ล้านล้านดอลลาร์ กดดันเฟดเร่งเลิกกระตุ้น

สหรัฐขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากสุดในรอบเกือบ 10 ปี หนี้สาธารณะทะลุ 20 ล้านล้านดอลลาร์ กดดันเฟดเร่งเลิกกระตุ้น

สหรัฐขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นเป็น 1.23 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4 ล้านล้านบาท) ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 โดยเป็นผลจากรายได้จากต่างชาติที่ลดลงไป โดยเฉพาะในส่วนของค่าปรับต่างๆ ขณะที่รายได้จากการลงทุนในต่างประเทศลดลง

ทั้งนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัดใช้ในการประเมินการค้าของสหรัฐ เนื่องจากรวบรวมข้อมูลทั้งการส่งออกและการนำเข้าสินค้าและบริการ รวมไปถึงการลงทุนทั้งในและนอกประเทศจากชาวอเมริกันและต่างชาติ

ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะของสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 20 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 660 ล้านล้านบาท) เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยหลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในกฎหมายขยายเพดานหนี้สาธารณะในวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยปริมาณหนี้สาธารณะที่ยังไม่ได้รับการชำระเพิ่มขึ้นทันที 3.17 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 10 ล้านล้านบาท)

สำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยผลการประชุมระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ และประกาศวันเริ่มต้นการลดขนาดงบดุล 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 148 ล้านล้านบาท) ซึ่งสะสมเพิ่มขึ้นมาจากการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ หลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2008 ซึ่งจะกลายเป็นการเดินหน้านโยบายการเงินเข้มงวดของเฟด

นอกจากนี้ หลังการประชุมครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ยังได้มีการเปิดเผยคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตของคณะกรรมการการเงินเฟด (เอฟโอเอ็มซี) หรือด็อทพล็อต

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของนักกลยุทธ์ของบลูมเบิร์กพบว่า เฟดจะไม่ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการจะขึ้นดอกเบี้ยในปลายปีนี้ แตกต่างกับด็อทพล็อตในเดือน มิ.ย. เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงขยายตัวต่ำสร้างความกังวลให้กับเฟด โดยเงินเฟ้อในเดือน ก.ค.ขยายตัว 1.4% เทียบกับปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2%