posttoday

ลูกชาย"ดูเตอร์เต" ปฏิเสธเอี่ยวค้ายาเสพติด

07 กันยายน 2560

บุตรชายผู้นำฟิลิปปินส์ ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องยาเสพติดมูลค่ามากกว่า 4,000 ล้านบาท ที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ พร้อมกับปัดข้อกล่าวหาพัวพันการค้ายาเสพติดว่าไม่เป็นความจริง

บุตรชายผู้นำฟิลิปปินส์ ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องยาเสพติดมูลค่ามากกว่า 4,000 ล้านบาท ที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ พร้อมกับปัดข้อกล่าวหาพัวพันการค้ายาเสพติดว่าไม่เป็นความจริง

แชลแนลนิวส์เอเชียของสิงคโปร์รายงานว่า - นายเปาโล ดูเตอร์เต บุตรชายประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์ ได้กล่าวต่อคณะกรรมการในวุฒิสภาว่า ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจากจีนที่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดได้ที่ท่าเรือแห่งหนึ่งในกรุงมะนิลา พร้อมทั้งปัดข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการพัวพันยาเสพติดว่าเป็นเรื่องไร้มูล

โดยปัจจุบันนายเปาโล วัย 42 ปี ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา ซึ่งเป็นเมืองฐานเสียงของนายดูเตอร์เตผู้พ่อ เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาภายหลังจากที่ถูกกล่าวหาว่าอำนวยความสะดวกให้แก่การลอบนำยาเสพติดจากจีนมูลค่า 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,141 ล้านบาท) มายังท่าเรือกรุงมะนิลาเมื่อเดือนพฤษภาคมแต่ถูกเจ้าหน้าที่ยึดได้เสียก่อน ส.ว.คนหนึ่งแจกจ่ายภาพถ่ายบุตรชายของดูเตอร์เตถ่ายคู่กับนักธุรกิจเจ้าของสินค้านำเข้าที่เจ้าหน้าที่พบว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ข้างใน ส่วนเรื่องรอยสักที่ ส.ว.คนหนึ่งอ้างว่าได้รับข่าวกรองจากต่างประเทศว่าเขามีรอยสักรูปมังกรและตัวเลขรหัสลับที่หลัง เป็นสัญลักษณ์ของการเป็นสมาชิกแก๊งยาเสพติดนั้น เขายอมรับว่า มีรอยสักจริงแต่ไม่ขอเปิดเผยเพราะเป็นสิทธิส่วนตัว และไม่ยอมให้บันทึกภาพรอยสักเพื่อส่งไปให้สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐ (DEA) ถอดรหัส อีกทั้งยังไม่ยอมตอบคำถามเรื่องบัญชีธนาคารโดยอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ขณะที่ด้านนายเออร์เนสโต อาเบลลา โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ กล่าวถึงกรณีของนายเปาโลว่า เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจของบุตรชายประธานาธิบดี ซึ่งพร้อมเผชิญหน้ากับข้อกล่าวหาและโต้แย้งเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง ด้านนายดูเตอร์เตวัย 72 ปีกล่าวเมื่อวันอังคารว่า ได้แนะนำให้บุตรชายเข้าให้การหากไม่มีสิ่งปกปิด อีกทั้งยังแนะนำว่าไม่ต้องตอบคำถามและให้อ้างสิทธิที่จะไม่ตอบคำถาม เขาย้ำมาโดยตลอดว่าจะลาออกหากมีหลักฐานพิสูจน์ว่าคนในครอบครัวพัวพันการทุจริต

โดยสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังคงทำสงครามกวาดล้างยาเสพติดในประเทศอย่างหนัก โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 3,800 คน นับตั้งแต่ดูเตร์เตรับตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์เมื่อกลางปีที่แล้ว