posttoday

สหรัฐขู่ปูพรมถล่มโสม ลั่นพร้อมลุยเต็มรูปแบบครั้งใหญ่

05 กันยายน 2560

สหรัฐเปิดช่องใช้ปฏิบัติการทหารโต้โสมขาว ดันราคาทองคำพุ่งแรงรอบ1ปี ขณะญี่ปุ่นเร่งล็อบบี้ขอยูเอ็นคว่ำบาตรแรง

สหรัฐเปิดช่องใช้ปฏิบัติการทหารโต้โสมขาว ดันราคาทองคำพุ่งแรงรอบ1ปี  ขณะญี่ปุ่นเร่งล็อบบี้ขอยูเอ็นคว่ำบาตรแรง

เจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ กล่าวเตือนไปยังเกาหลีเหนือว่า สหรัฐอาจใช้มาตรการตอบโต้ทางการทหารอย่างเต็มรูปแบบครั้งใหญ่ หลังจากที่เกาหลีเหนือยังเดินหน้ายั่วยุโดยอ้างความสำเร็จในการทดสอบระเบิดไฮโดรเจน ซึ่งถือเป็นการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 6

แมททิส กล่าวภายหลังการพบหารือกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งว่า สหรัฐมีทางเลือกในด้านการทหารหลายทางที่จะใช้รับมือกับเกาหลีเหนือ ซึ่งปัจจุบันสหรัฐมีกำลังพลราว 2.8 หมื่นคน ในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ในแปซิฟิก ขณะที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ขู่ผ่านทวิตเตอร์ว่า อาจใช้วิธีตัดสัมพันธ์ทางการค้ากับทุกประเทศที่ทำการค้ากับเกาหลีเหนือรวมถึงจีนด้วย

ด้านฝ่ายวางแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือมีแผนจะทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ครั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ หลังอ้างความสำเร็จการทดสอบระเบิดไฮโดรเจนที่อาจติดหัวรบขีปนาวุธไอซีบีเอ็มได้ ขณะที่เกาหลีใต้ได้เตรียมการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธจากสหรัฐ (ทาด) อย่างเต็มรูปแบบทันทีวานนี้ พร้อมเดินหน้าการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐครั้งใหม่ โดยจำลองสถานการณ์โจมตีฐานที่มั่นในการปล่อยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดี มุนแจอิน ของเกาหลีใต้ ยืนยันว่าไม่ควรเกิดสงครามขึ้นอีก และย้ำว่าเกาหลีใต้พร้อมชาติพันธมิตรจะแสวงหาการทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากนิวเคลียร์ด้วยสันติวิธี

ด้านนายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น ได้โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เพื่อขอการสนับสนุนในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ให้ลงมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือให้มากขึ้นรวมถึงการตัดช่องทางด้านพลังงาน

ทั้งนี้ สถานการณ์เกาหลีเหนือส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ปลอดภัยพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง โดยราคาทองคำสปอตโกลด์ได้พุ่งสูงขึ้นอีก 0.9% วานนี้ไปอยู่ที่ 1,336 ดอลลาร์/ออนซ์ และขึ้นไปแตะถึง 1,339.47 ดอลลาร์/ออนซ์ ระหว่างการซื้อขาย หรือสูงที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง เนื่องจากมีแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเป็นเงินเยนและเงินฟรังก์สวิสมากขึ้น