ญี่ปุ่นเพิ่มงบทหารทุบสถิติ

ญี่ปุ่นเสนองบกลาโหมเพิ่ม 6 ปีซ้อน ขอซื้อฝูงบิน F-35 รับมือขีปนาวุธเกาหลีเหนือ-พิพาทดินแดนกับจีน

รัฐบาลญี่ปุ่นเสนองบกลาโหมในปีงบประมาณ 2018 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนสูงสุดทุบสถิติใหม่ที่ 5.26 ล้านล้านเยน (ราว 1.59 ล้านล้านบาท) โดยเพิ่มอีก 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,310 ล้านบาท) หรือ 2.5% จากปีก่อน ท่ามกลางสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีที่ตึงเครียดขึ้น หากได้รับการอนุมัติก็จะกลายเป็นการเพิ่มงบกลาโหมอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ในรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ

รอยเตอร์ส ระบุว่า งบกลาโหมในปีหน้าจะถูกนำไปใช้ในการปรับปรุงระบบป้องกันขีปนาวุธข้ามทวีป ซื้อเครื่องบิน ขับไล่ล่องหนรุ่นใหม่ F-35 จำนวน 6 ลำ ซื้อเครื่องบินออสเปรย์ V-22 จำนวน 4 ลำ และซื้อเรือเสริมทัพนาวี รวมถึงเรือ ดำน้ำ 1 ลำ และเรือรบขนาดกลางอีก 2 ลำ

นอกจากนี้ จะใช้งบราว 90 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 3,000 ล้านบาท) ในส่วนที่ขออนุมัติเพิ่ม ศึกษาระบบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเพื่อให้สามารถเจาะระบบการป้องกันของศัตรูได้อย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น กล่าวว่า การใช้งบประมาณในการวิจัยและพัฒนามีขึ้นเพื่อปกป้องเกาะของญี่ปุ่นเป็นหลัก โดยเกาะโอกินาวาทางตะวันตกเฉียงใต้นั้นอยู่ใกล้กับทะเลจีนตะวันออกซึ่งเป็นพื้นที่พิพาท ทางดินแดนกับจีนด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันระบบขีปนาวุธพิสัยไกลที่สุดของญี่ปุ่นมีระยะการโจมตีไม่ถึง 300 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้สมาชิกสภานิติบัญญัติจำนวนหนึ่งในพรรครัฐบาล แอลดีพี รวมถึง อิตสึโนริ โอโนเดระ รัฐมนตรีกลาโหมคนล่าสุด ยืนยันว่า ญี่ปุ่นจำเป็นต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สามารถรับมือกับการโจมตีของเกาหลีเหนือได้ หลังจากเกาหลีเหนือเพิ่งยิงขีปนาวุธ ลูกใหม่ข้ามน่านฟ้าเกาะฮอกไกโดไปตกในมหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อไม่กี่วันมานี้

ด้านเกาหลีใต้ได้เสร็จสิ้นการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐแล้ววานนี้ โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุในทวิตเตอร์ว่า การเจรจาไม่ใช่คำตอบในการแก้ไขปัญหาเกาหลีเหนือ หลังจากที่มีการคุยกันมาตลอดหลายสิบปีก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี ท่าทีดังกล่าวนับว่าสวนทางกันอย่างมากกับ เจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ที่ย้ำว่า ยังมีโอกาสในการเจรจาทางการทูตกันอยู่เสมอ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะยังคงทำงานร่วมกันต่อไป และสหรัฐก็มีส่วนร่วมรับผิดชอบในการให้ความคุ้มครองชาติ ประชาชน และผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างสหรัฐกับชาติพันธมิตร