มรสุมเข้าซิลิคอนวัลเลย์

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์

ซิลิคอนวัลเลย์ ดินแดนแห่งเทคโนโลยีโลกตะวันตก ซึ่งเป็นผู้นำวิสัยทัศน์แห่งโลกอนาคตทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความเท่าเทียมในหมู่มวลมนุษยชาติโดยไม่แบ่งแยกด้วยเพศหรือเชื้อชาตินั้น กำลังเผชิญกับ “มรสุม” ที่ทำให้ผู้คนหันมามองปัญหาที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้การสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ

นับตั้งแต่ “ซูซาน โฟว์เลอร์” อดีตวิศวกรหญิงของอูเบอร์ เทคโนโลยี อิงค์ สตาร์ทอัพผู้ให้บริการไรด์แชริ่งชื่อดังระดับยูนิคอร์น (มูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ออกมาเปิดโปงการคุกคามทางเพศภายในบริษัทที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขเลยก่อนหน้านี้ จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในองค์หลายอย่างของอูเบอร์นั้น วัฒนธรรม “ชายเป็นใหญ่” เริ่มปรากฏชัดมากขึ้นทุกที และเมื่อเข้าสู่ครึ่งปีหลังของปีนี้ เรื่องอื้อฉาวได้รับการเปิดเผยขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเกิดกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่างกูเกิล (หรือบริษัทแม่คืออัลฟาเบธ)

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา กูเกิลเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวขนานใหญ่ หลังวิศวกรชายเขียนข้อความบันทึก 3,300 คำ ซึ่งส่งต่อกันผ่านอีเมลของบริษัทและเปิดเผยต่อสาธารณชนในภายหลัง โดยข้อความดังกล่าววิพากษ์วิจารณ์จุดยืนของบริษัทที่ประกาศจะสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศว่า เป็นการลดศักยภาพการแข่งขันของบริษัทและเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองมากกว่า รวมถึงแนวคิด “ซ้าย” ของบริษัทก็ขวางไม่ให้ผู้เห็นต่างได้วิพากษ์วิจารณ์

พร้อมกันนี้ วิศวกรคนดังกล่าว ระบุว่า ผู้หญิงมีข้อเสียเปรียบทางสรีระ โดยผู้หญิงเป็นเพศที่มีความเครียดมากกว่าผู้ชาย ทำให้ยากต่อการทำงานในบริษัทเทคโนโลยีที่มีแรงกดดันสูง ซึ่งกูเกิลได้ออกมาประณามการเขียนข้อความดังกล่าวว่าขัดต่อหลักปฏิบัติของบริษัท ขณะที่ซุนดาร์ พิชัย ซีอีโอของกูเกิลต้องรีบบินกลับก่อนพักร้อนสิ้นสุด เพื่อมาจัดการเรื่องดังกล่าว ก่อนที่วิศวกรชายจะออกมาแฉว่า โดนกูเกิลไล่ออกจากบริษัทแล้ว

ซีเอ็นเอ็น มันนี่ รายงานว่า จากผลสำรวจสตรีมากกว่า 200 คน พบว่า 3 ใน 5 ของผู้หญิงที่ทำงานในซิลิคอนวัลเลย์ ต้องเผชิญกับการถูกเอาเปรียบทางเพศ โดยแม้กระทั่งก่อนหน้าเรื่องอื้อฉาวจะปรากฏขึ้น กระทรวงแรงงานสหรัฐ ก็กำลังอยู่ระหว่างสอบสวนการให้ค่าแรงพนักงานชายและหญิงที่ไม่เท่าเทียมกันในกูเกิลอยู่

สำหรับซิลิคอนวัลเลย์แล้ว เรื่องดังกล่าวนับเป็นเรื่องใหญ่ เพราะที่ผ่านมาก็พยายามเพิ่มความหลากหลายทางเพศให้กับองค์กรมาโดยตลอด

แต่ตัวเลขที่ไม่โกหก บ่งชี้ว่า ความพยายามดังกล่าวยังไม่เห็นผล โดยนิตยสารจีคิว ระบุว่า ในปี 2014 กูเกิลเปิดเผยสัดส่วนผู้ชายต่อผู้หญิงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลกอยู่ที่ 83% ต่อ 17% แม้จะพยายามสร้างความหลากหลายอย่างต่อเนื่อง แต่ตัวเลขกลับขยับดีขึ้นเพียงน้อยนิดอยู่ที่ 80% ต่อ 20% เมื่อเดือน ม.ค. 2017

โลกกำลังรอให้ซิลิคอนวัลเลย์หาตัวเองให้พบ และกลับมาเป็นผู้นำวิสัยทัศน์ด้านความหลากหลายอีกครั้ง