posttoday

6 นวัตกรรมปฏิวัติโลกการเงิน

29 กรกฎาคม 2560

ในโลกการเงินปัจจุบัน เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และนับวันจะมาเร็วและแรงขึ้น ทำให้ประชาชนไทยได้เห็นรูปแบบการใช้บริการ

โดย...วารุณี อินวันนา

ในโลกการเงินปัจจุบัน เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และนับวันจะมาเร็วและแรงขึ้น ทำให้ประชาชนไทยได้เห็นรูปแบบการใช้บริการทางการเงินใหม่ๆ เกิดขึ้นรายวัน

บัญชา มนูญกุลชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเทคโนโลยีทางการเงิน สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะที่เทคโนโลยีจะถูกนำเข้ามาในโลกการเงินทุกช่องทางเรียกว่า เทคโนโลยีทางการเงิน หรือ
ฟินเทค (FinTech) และเปลี่ยนโลกการเงินแบบเดิมไปอย่างสิ้นเชิง

“ระบบการชำระเงินแบบเดิมๆ กำลังถูกเปลี่ยนไปสู่การชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ และชำระได้ตลอด 24 ชั่วโมง การชำระข้ามธนาคาร และการเรียกเก็บเงินจากผู้ซื้อสินค้า” บัญชา กล่าว

บัญชา กล่าวว่า ขณะเดียวกันก็เข้ามาเปลี่ยนโลกประกันภัยด้วย ทำให้เกิดการทำประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง มีการนำอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการเก็บสถิติ ข้อมูล พฤติกรรมลูกค้า เพื่อพิจารณาการคิดเบี้ยประกันภัย เช่น เซ็นเซอร์ และแวเรเบิลดีไวซ์

รวมถึงตลาดทุน ก็เกิดรูปแบบการระดมทุนจากมวลชน หรือคราวด์ฟันดิ้ง (Crowdfunding) การกู้ยืมเงิน ระหว่างผู้ให้กู้กับประชาชนโดยตรงไม่ผ่านสถาบันการเงิน การลงทุนที่มีหุ่นยนต์มาให้บริการ หรือให้คำแนะนำ

สำหรับเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกการเงินให้เปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิงในปัจจุบันและอนาคต ประกอบด้วย

1.ระบบคิวอาร์โค้ด (QR payment) ที่จะผูกกับลายนิ้วมือ จะถูกนำมาประยุกต์ใช้ด้านการชำระเงิน ที่จะมีการแปลงคิวอาร์โค้ดให้เป็นภาษาเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัย ทำให้ร้านค้าที่รับชำระเงินจะไม่เห็นข้อมูลส่วนตัว จากเดิมที่ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต จะมีปัญหาถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลบัตรไปใช้ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีการพัฒนาแล้วเพื่อใช้สำหรับการชำระเงินด้วยบัตรอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่

2.ระบบจัดการฐานข้อมูลบัญชีย่อย หรือบัญชีที่เป็นแบบกระจาย (Blockchains and Distributed Ledgers) ถ้าจะแปลให้เข้าใจให้ง่ายขึ้นในโลกการเงิน หมายถึง ระบบการจัดการสมุดบัญชีย่อยๆ ซึ่งคนที่มีสิทธิเข้าถึงสามารถเห็นและติดตามได้ แต่ไม่สามารถเข้าไปแก้ไขได้ จากปัจจุบันที่เน้นรวมศูนย์ หรือสมุดบัญชีกลาง ทุกคนเชื่อมเข้าสู่ส่วนกลาง และข้อมูลดังกล่าวสามารถที่จะถูกโจรกรรม หรือเข้าไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขโดยมิจฉาชีพออนไลน์

6 นวัตกรรมปฏิวัติโลกการเงิน
บัญชา มนูญกุลชัย

“หากเป็นระบบข้อมูลย่อยๆ หรือบัญชีกระจาย ทุกคนที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูล จะได้รับข้อมูลชุดเดียวกัน สามารถติดตามได้ว่า ข้อมูลนี้ออกโดยใคร นำไปทำอะไรมาบ้าง ข้อดีคือสามารถป้องกันการถูกโจรกรรมหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูล หรือปล่อยไวรัสเข้าไปทำลาย เพราะถ้าจะเปลี่ยนข้อมูล ต้องไปไล่เปลี่ยนทีละคนในบล็อกเชน หากมี 1,000 คน ก็ต้องเปลี่ยนทั้งหมดพร้อมกัน หรือถ้าจะปล่อยไวรัส ก็ต้องปล่อยใส่ทั้ง 1,000 คน พร้อมกัน ทำให้ระบบบัญชีกระจายนี้มีความปลอดภัยสูงมากกว่าระบบรวมศูนย์ เช่น เงินดิจิทัล สกุลบิตคอยน์ ก็ใช้ระบบบล็อกเชนเข้ามาบริหารจัดการ” บัญชา กล่าว

3.ไบโอเมตริกซ์ (Biometrics) เทคโนโลยีทางด้านชีวภาพและทางการแพทย์ เช่น การสแกนลายนิ้วมือ หรือม่านตา ซึ่งปัจจุบันนิยมใช้สแกนม่านตา เพราะม่านตาจะไม่เหมือนกันแม้แต่ฝาแฝดก็ต่างกัน ในขณะที่ลายนิ้วมือมีจุดอ่อน คือ หลังอาบน้ำใหม่ๆ ลายนิ้วมือจะไม่ชัด หรือบางคนมีลายนิ้วมือที่ไม่ชัด ถึงขั้นไม่มีลายนิ้วมือ

อย่างไรก็ตาม ระบบไม่ได้เก็บลายนิ้วมือหรือม่านตาลูกค้าไว้เพราะเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล แต่จะมีการแปลงเป็นภาษาเทคโนโลยี เพื่อนำไปใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ฉะนั้นการปลอมแปลงม่านตาหรือลายนิ้วมือ จะทำได้ยากมาก และสามารถพิสูจน์ตัวตนได้ดีมาก

4.ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data/Data Analytics) ทำให้การเก็บข้อมูลจากหลายๆ แหล่งเข้าด้วยกันง่ายขึ้น และมีต้นทุนต่ำ ในโลกการเงินในอนาคตอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลทางการเงินมาวิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า แต่จะใช้ข้อมูลอื่นๆ เข้ามา เช่น การใช้เฟซบุ๊ก หรือกูเกิล ที่สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าจากการใช้จ่าย ชอบซื้อสินค้าประเภทอะไร ซื้อเวลาไหน ชอบอาหารแบบไหน

5.สมองกลอัจฉริยะ (เอไอ) หรือMachine Learning/Artificial Intelligence (AI) ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่เรียนรู้พฤติกรรมของคน จดจำลักษณะตัวตน ความชอบของคน การซื้อสินค้าที่ชอบ เช่น ถ้าชอบรองเท้ากีฬา มีการคลิกดูบ่อยๆ พอมีโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับกีฬา จะปรากฏมาที่คนคนนั้น จะทำให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อได้หลากหลายประเภทตามความต้องการของลูกค้าแต่ละคน

ในต่างประเทศ มีการใช้เทคโนโลยีเอไอเทรดหุ้นแทนคน หรือเล่นเกมแข่งกับคน ซึ่งเอไอมีการทำงานได้อย่างสม่ำเสมอ ทำงานได้ตลอดเวลา ยกเว้นไฟดับ ในขณะที่คนจะมีข้อจำกัด เพราะถ้าทำงานต่อเนื่องจะมีอาการเหนื่อยล้า ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง

6.ช่องทางการรับส่งข้อมูลมาตรฐาน (เอพีไอ) หรือ standard/Open APIs (Application Programming Interfaces) ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งในนวัตกรรมเปลี่ยนโลก ไม่ว่าประเทศใดก็สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกันได้ ทำให้สามารถทำงานอย่างต่อเนื่องไม่สะดุดในทุกมุมโลก  

“ประเทศไทยเราตอนนี้มีแล้ว 3 นวัตกรรม คือ ระบบคิวอาร์โค้ด ระบบบล็อกเชน และไบโอเมตริกซ์ ที่กำลังจะตามมาเร็วๆ นี้ คือบิ๊กดาต้า และอื่นๆ ซึ่งทาง ธปท.ได้สนับสนุนในทุกด้าน ทั้งด้านการเพิ่มประสิทธิภาพ การสร้างความมั่นคงให้มีเสถียรภาพ และการสร้างความเข้มแข็งปลอดภัย เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างเต็มที่และประชาชนได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างสบายใจ” บัญชา กล่าว