posttoday

"นาซา"ซุ่มพัฒนาวิธีโจมตีดาวก่อนชนโลก

03 กรกฎาคม 2560

นาซาเผยกำลังพัฒนาเทคโนโลยีในการทำลาย-เบี่ยงทิศทางดาวเคราะห์น้อยที่จะพุ่งชนโลก เล็งทดสอบกับดาวที่โคจรเข้ามาใกล้โลกในปี2022

นาซาเผยกำลังพัฒนาเทคโนโลยีในการทำลาย-เบี่ยงทิศทางดาวเคราะห์น้อยที่จะพุ่งชนโลก เล็งทดสอบกับดาวที่โคจรเข้ามาใกล้โลกในปี2022

มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งที่เหตุการณ์สมมติเกี่ยวกับอุกกาบาตหรือดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก เป็นโครงเรื่องยอดนิยมของวงการฮอลลีวูดจนมีภาพยนตร์ในทำนองนี้ออกมาให้ชมกันหลายเรื่อง ซึ่งแทนที่ชาวโลกจะรับชมเพื่อความบันเทิงแล้วก็เลิกรากันไป กลับเอาไปคิดต่อจนเกิดความกังวลว่า ถ้าเกิดดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกขึ้นมาจริงๆ เราจะเอาตัวรอดจากหายนะนี้กันอย่างไร

ไม่เพียงเท่านั้น องค์การด้านอวกาศมักพบดาวเคราะห์น้อยหรืออุกกาบาตในช่วงเวลาที่สายเกินการณ์ เช่น พบเอาเมื่อดาวดวงนั้นเฉียดโลกในระยะที่หวุดหวิดจะเป็นภัย หรือพบในช่วงเวลาที่กำลังใกล้จะพุ่งชนเราเต็มแก่ โชคดีที่ดาวเหล่านั้นมีขนาดเล็ก หรือไม่ก็มีวงโคจรห่างโลกเกินกว่าจะทำอันตรายได้

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าองค์การด้านอวกาศจะนิ่งนอนใจในเรื่องนี้ เช่น องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซา ที่เปิดเผยว่ากำลังพัฒนาเทคโนโลยีในการเบี่ยงหรือทำลายดาวเคราะห์น้อยที่กำลังจะพุ่งชนโลกเพื่อหายนภัยที่อาจทำลายล้างมนุษยชาติได้ ซึ่งโครงการนี้นับเป็นโครงการแรกที่มีเป้าหมายเพื่อจัดการเทหวัตถุจากนอกโลกโดยตรง

โปรเจกต์ของนาซามีชื่ออย่างเป็นทางการว่า การทดสอบการเบี่ยงทิศทางของดาวเคราะห์น้อย หรือ DART ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบในการเริ่มงานและบริหารจัดการคือห้องทดลองฟิสิกส์ประยุกต์แห่งจอห์นฮอปกินส์ โดยในเวลานี้จะเริ่มสานต่อในระดับพัฒนาแนวคิดไปสู่การออกแบบโครงการแล้ว และในขั้นตอนต่อๆ ไป คือการทดสอบการเบี่ยงวิถีของวัตถุนอกโลก โดยทำการทดสอบกับดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็กที่ไม่เป็นภัยคุกคามกับโลกของเราก่อน

แอนดี้ เฉิง หนึ่งในเจ้าหน้าที่วิจัยของ DART เปิดเผยว่า นับเป็นก้าวสำคัญของ DART ในการประกาศว่า มนุษย์จะสามารถป้องกันตัวเองได้หากในอนาคตมีวัตถุจากนอกโลกมุ่งตรงเข้ามา แต่ด้วยเหตุที่เราไม่ทราบเกี่ยวกับโครงสร้างและองค์ประกอบภายในของดาวเคราะห์น้อยมากนัก จึงต้องทำการทดสอบกับดาวของจริง

เป้าหมายที่จะใช้ทดสอบคือดาวเคราะห์น้อยดวงที่ชื่อ Didymos ที่จะโคจรมาใกล้โลกภายในเดือน ต.ค. 2022 และในปี 2024 ดาว Didymos มีชื่อในภาษากรีกหมายความว่า แฝด เพราะเป็นดาวในระบบดาวคู่ หรือ binary system ประกอบด้วยดาว Didymos A เส้นผ่าศูนย์กลาง 780 ม. และ Didymos B เส้นผ่าศูนย์กลาง 160 ม. โดย DART จะทำการส่งแรงกระทบไปยัง Didymos B ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเพียงดวงเดียว

สำหรับเทคโนโลยีที่จะใช้คือจรวดรุ่น S-type บังคับด้วยระบบเล็งเป้าหมายอัตโนมัติ เมื่อเข้าสู่ระยะที่เหมาะสมจะมีการปล่อยยานอวกาศขนาดเท่าตู้เย็น ด้วยความเร็ว 9 เท่าของลูกปืนที่ถูกยิงออกมา หรือประมาณ 6 กม.ต่อวินาที เพื่อสร้างแรงกระแทกมหาศาลจนดาวมีอัตราการเคลื่อนที่ช้าลงกระทั่งเปลี่ยนวงโคจร

ภาพ...เอเอฟพี

ที่มา www.m2fnews.com