posttoday

จับตาเฟดลด'งบดุล'

15 มิถุนายน 2560

ตลาดจับตาแผน ลดงบดุล-ทิศทางดอกเบี้ยเฟดครึ่ง ปีหลัง ด้านอีซีบี-บีโอเจยังไม่พร้อมเปลี่ยนการเงินตึงตัว

ตลาดจับตาแผน ลดงบดุล-ทิศทางดอกเบี้ยเฟดครึ่ง ปีหลัง ด้านอีซีบี-บีโอเจยังไม่พร้อมเปลี่ยนการเงินตึงตัว

ซีเอ็นบีซีและรอยเตอร์สรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดว่าจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ไปอยู่ที่ระดับ 1-1.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ แต่ตลาดจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษที่แผนการลดงบดุลและทิศทางดอกเบี้ยครึ่งปีหลังนี้ เนื่องจากอาจสร้างความผันผวนต่อตลาดทุนตามมาหากไม่มีความชัดเจนมากพอ

จิม คาร์สัน จากมอร์แกน สแตนลีย์ อินเวสต์เมนท์ แมเนจเมนท์ ระบุว่า เฟดไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้ แต่ตลาดจะจับตาว่าเฟดจะลดงบดุลอย่างไรมากกว่า หลังจากที่เริ่มเกริ่นออกมาในการประชุมก่อนครั้งหน้านี้

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังจับตาแนวโน้มดอกเบี้ยครึ่งปีหลังซึ่งจะมี การเปิดเผยรายงานดอท พลอท หรือแนวโน้มดอกเบี้ย ณ สิ้นปีออกมาด้วย เนื่องจากการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงเมื่อเดือน มี.ค. และ เม.ย. อาจส่งผลต่อการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ โกลด์แมน แซคส์ ได้เลื่อนคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ออกไปจากเดือน ก.ย.เป็นเดือน ธ.ค.

ด้านธนาคารโซซิเอต เจเนราล คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะยังคงขยายมาตรการซื้อคืนสินทรัพย์ (คิวอี) ออกไปจนถึงปี 2019 โดยจะยังไม่ปรับแผนหันมาตรึงนโยบายการเงินในเร็วๆ นี้ แม้จะเคยส่งสัญญาณในการประชุมก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนมีทิศทางการฟื้นตัวดีขึ้นก็ตามความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับ เยนส์ วีดแมนน์ ประธานธนาคารกลางเยอรมนี ที่ระบุว่า อีซีบีกำลังเสี่ยงต่อการถูกกดดันทางการเมืองให้คงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เพื่อช่วยลดภาระด้านต้นทุนกู้ยืมของธนาคารในกลุ่มประเทศยูโรโซน ผ่านทางมาตรการคิวอี

ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ก็คาดว่าจะส่งสัญญาณคงมาตรการทางการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปเช่นกัน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ ขณะที่เริ่มมีสัญญาณกดดันจากนักการเมืองและนักวิชาการให้บีโอเจเปิดเผยรายละเอียดของการเตรียมแผนออกจากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ที่ใช้มานานนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจปี 2008