posttoday

รายงานใหม่ชี้ สหรัฐจงใจทิ้งระเบิดลงมัสยิดในซีเรีย

19 เมษายน 2560

องค์กรสิทธิมนุษยชนเผยรายงานการสืบสวนเหตุโจมตีทางอากาศมัสยิดในซีเรีย เมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งสหรัฐอ้างโจมตีอัลกออิดะห์

องค์กรสิทธิมนุษยชนเผยรายงานการสืบสวนเหตุโจมตีทางอากาศมัสยิดในซีเรีย เมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งสหรัฐอ้างโจมตีอัลกออิดะห์

กองกำลังสหรัฐประสบความล้มเหลวในการใช้มาตรการทางการทหารที่จำเป็น ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจส่งโดรนเข้าโจมตีทางอากาศ มัสยิดแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยผู้แสวงบุญ ทางตอนเหนือของซีเรีย เมื่อเดือนที่ผ่านมา รายงานใหม่จากการสืบสวนเหตุการโจมตีดังกล่าว

รายงานจาก Human Rights Watch (HRW), สภาบันนิติวิทยาศาสตร์ในกรุงลอนดอน และหน่วยสืบสวน Bellingcat ได้เปิดเผยกรณีการโจมตีทางอากาศที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ในมัสยิดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางตะวันตกของเมืองอเลปโป ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 38 คน และอีกหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ ด้านสหรัฐอ้างเป็นการโจมตีกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์

แต่จากการสัมภาาณ์ และเก็บข้อมูลจากชาวเมืองท้องถิ่น ประกอบหลักฐานจากภาพถ่าย และวิดีโอของมัสยิด แสดงให้เห็นว่ามัสยิดประจำหมู่บ้าน al-Jinah นี้เป็นศูนย์รวมจิตใจของผู้คนในทุกเย็นวันพฤหัสบดี และผู้คนที่เสียชีวิตในวันนั้นล้วนเป็นประชาชนธรรมดา

ข้อมูลดังกล่าวได้มาจากการสัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์บุคคล 14 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตี ในจำนวนนี้มี 4 คนที่อยู่ในเหตุกาณ์วันนั้นด้วย และสามารถรอดชีวิตมาได้ โดยพยานในเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่าการโจมตีเกิดขึ้น 1 ชั่วโมงหลังการสวดมนต์หลังพระอาทิตย์ตกเริ่มต้นขึ้น และจากการตรวจสอบซากปรักหักพังหลังการโจมตี ก็ปรากฏไม่พบอาวุธใดๆ ดังที่สหรัฐกล่าวอ้างปฏิบัติการว่าเป็นการจัดการกับกลุ่มก่อการร้าย

Eric Pahon โฆษกจากเพนตากอนเคยออกมากล่าวว่า มัสยิดดังกล่าวเป็นสถานที่ซึ่งผู้นำของกลุ่มอัลกออิดะห์ใช้ในการปลูกฝังแนวคิดหัวรุนแรงแก่บรรดานักรบของพวกเขา ด้าน HRW ออกมาเรียกร้องการตรวจสอบการโจมตีครั้งนี้อย่างละเอียดที่สุด

ทั้งนี้สหรัฐเป็นประเทศผู้นำในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอส ทั้งในอิรัก และซีเรีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา การโจมตีทางอากาศโดยกองกำลังสหรัฐก็เพิ่งจะสังหารผู้คนไป 13 ราย ในจังหวัด Dei Az Zor ทางตะวันออกของซีเรีย และเมื่อเดือนที่ผ่านมาการโจมตีทางอากาศในอิรัก ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากถึง 200 คน ภายในวันเดียว