posttoday

สหรัฐลุยคุมแรงงานต่างชาติ

19 เมษายน 2560

ทรัมป์เตรียมลงนามคำสั่งยกเครื่องวีซ่า H-1B เล็งพิจารณาเอฟทีเอเกาหลีใต้ใหม่

ทรัมป์เตรียมลงนามคำสั่งยกเครื่องวีซ่า H-1B เล็งพิจารณาเอฟทีเอเกาหลีใต้ใหม่

เจ้าหน้าที่ภายในรัฐบาลของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยกับบรรดาสำนักข่าวต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงรอยเตอร์สและบลูมเบิร์กว่า ทรัมป์จะลงนามในคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีในวันนี้ เพื่อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนเปลี่ยนกฎการออกวีซ่าชนิด H-1B ซึ่งให้แก่แรงงานฝีมือสูงจากต่างชาติ

บลูมเบิร์ก รายงานว่า เจ้าหน้าที่สองรายของทำเนียบขาวระบุรายชื่อบริษัทที่มีการจ้างงานต่างชาติ ซึ่งรวมถึงทาทา คอนซัลแทนซี โดยสหรัฐอาจอนุมัติวีซ่า H-1B สำหรับบริษัทดังกล่าวน้อยลง หากมีการปรับกฎการออกวีซ่า

ทั้งนี้ วีซ่าดังกล่าวได้รับความนิยมในหมู่บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐ (ยูเอสซีไอเอส) ระบุว่า จำนวนผู้ยื่นขอวีซ่าชนิด H-1Bในปีนี้ ลดลงไปอยู่ที่ 1.99 แสนคน จากที่เคยสูงถึง 2.36 แสนคน ในปี 2016

ทรัมป์จะลงนามในคำสั่งพิเศษดังกล่าว ระหว่างเยี่ยมชมบริษัทผู้ผลิตต่างๆ ในรัฐวิสคอนซิล โดยนอกเหนือจากคำสั่งดังกล่าวแล้ว ยังมีคำสั่งพิเศษสั่งให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องพิจารณาระบบการซื้อสินค้าของบริษัทต่างๆ เพื่อเพิ่มการซื้อสินค้าอเมริกัน

ความพยายามดังกล่าวเป็นไปตามนโยบาย “อเมริกันต้องมาก่อน” โดยนอกเหนือจากการเพิ่มการจ้างงานแล้ว ยังพยายามแก้ปัญหาการขาดดุล โดย ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวกับผู้นำภาคธุรกิจเกาหลีใต้ระหว่างเยือนกรุงโซลว่า สหรัฐเตรียมจะทบทวนและแก้ไขข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ เพราะทำให้การค้าขาดดุลของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า นับตั้งแต่ข้อตกลงดังกล่าวมีผลเมื่อปี 2012

หลังหารือกับเกาหลีใต้ เพนซ์ เดินทางไปหารือกับ ทาโร อาโซ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น เพื่อให้ญี่ปุ่นเปิดกว้างตลาดรับสินค้าจากสหรัฐมากขึ้น รวมถึงดึงดูดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานจากเอกชนญี่ปุ่น ตามหลังการหารือด้านภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือกับนายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ

ทั้งนี้ สหรัฐไม่ใช่ชาติเดียวที่มีการคุมเข้มวีซ่ามากขึ้น ด้านนายกรัฐมนตรี มัลคอร์ม เทิร์นบูล ประกาศปรับปรุงโครงการวีซ่า 457 สำหรับแรงงานฝีมือต่างชาติ โดยลดกำหนดเวลาจาก 4 ปี เหลือ 2 ปี และลดจำนวนภาคส่วนที่เปิดรับ รวมถึงเพิ่มคุณสมบัติด้านภาษาอังกฤษให้สูงขึ้น และตรวจสอบประวัติอาชญากรรมเต็มรูปแบบ

ภาพ...เอเอฟพี